Highlight & Knowledge

รู้จัก ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น (Local Electricity Market) แนวคิดการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ายุคใหม่

ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นเป็นแนวคิดที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในหลายประเทศ เนื่องจากมุ่งเน้นการผลิตและบริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่น ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการขนส่งและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานทดแทนในท้องถิ่นยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตขนาดเล็กเข้าร่วม ซึ่งเพิ่มการแข่งขันและความหลากหลายของแหล่งพลังงาน

นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานและสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น ในหลายประเทศกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น เทคโนโลยีสมาร์ทกริดและระบบการจัดการพลังงานที่ทันสมัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการการผลิตและบริโภคไฟฟ้า การใช้เทคโนโลยี Peer-to-Peer Trading ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถซื้อขายไฟฟ้าได้โดยตรง การพัฒนาตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นในประเทศไทยยังคงอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตในอนาคต การสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น

แนวคิดของ ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น

แนวคิดของตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น (Local Electricity Market) มุ่งเน้นการสร้างระบบการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น โดยเน้นการผลิตและบริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่น ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการขนส่งและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

แนวคิดหลัก

  1. การผลิตและบริโภคในท้องถิ่น เน้นการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน
  2. การซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer (P2P) ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถซื้อขายไฟฟ้าได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้พลังงาน
  3. โครงสร้างตลาดที่ยืดหยุ่น ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นสามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของผู้บริโภคได้ดีขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีสมาร์ทกริดและระบบการจัดการพลังงานที่ทันสมัย
  4. การสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น การผลิตไฟฟ้าในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้และสร้างงานให้กับชุมชน ซึ่งช่วยเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจท้องถิ่น

โครงสร้างของ ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น

โครงสร้างของตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นประกอบด้วยผู้ผลิตและผู้บริโภคในท้องถิ่น ซึ่งสามารถซื้อขายไฟฟ้าได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer โครงสร้างนี้ยังรวมถึงระบบการจัดการพลังงานสมาร์ทกริดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงของระบบไฟฟ้า การใช้เทคโนโลยีสมาร์ทกริดและระบบการจัดการพลังงานที่ทันสมัยเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถสรุปโครงสร้างได้ดังนี้

1. ผู้ผลิตไฟฟ้าในท้องถิ่น (Local Generators)

  • พลังงานทดแทน การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์, ลม, น้ำ, และอื่นๆ
  • การผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก การผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่มีขนาดเล็ก เช่น โซลาร์รูฟท็อป

2. ผู้บริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่น (Local Consumers)

  • ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ บ้านเรือน, อาคารพาณิชย์, และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
  • ผู้ผลิตและบริโภคไฟฟ้า (Prosumers) บุคคลหรือองค์กรที่ผลิตและบริโภคไฟฟ้าในเวลาเดียวกัน

3. ระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System)

  • สมาร์ทกริด (Smart Grid) ระบบที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการการผลิตและบริโภคไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระบบควบคุมและตรวจสอบ (Monitoring and Control Systems) ช่วยติดตามและควบคุมการผลิตและบริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่น

4. โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)

  • สายส่งและสายจ่ายไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการส่งและจ่ายไฟฟ้า
  • สถานีแปลงกระแส (Substations) ใช้สำหรับการแปลงกระแสไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน

5. นโยบายและกฎระเบียบ (Policies and Regulations)

  • การสนับสนุนจากภาครัฐ นโยบายที่ช่วยส่งเสริมการผลิตและบริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่น
  • การกำกับดูแลตลาด กฎระเบียบที่ควบคุมการซื้อขายไฟฟ้าในท้องถิ่นเพื่อรักษาความเป็นธรรมและความมั่นคงของระบบ

6. เทคโนโลยี (Technology)

  • การเก็บพลังงาน (Energy Storage) เทคโนโลยีที่ช่วยเก็บพลังงานไว้ใช้ในยามจำเป็น
  • การแลกเปลี่ยนข้อมูล (Data Exchange) เทคโนโลยีที่ช่วยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

โครงสร้างเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น

ข้อดีของ ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น

ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

  1. การลดการสูญเสียพลังงาน การผลิตและบริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่นช่วยลดการสูญเสียพลังงานระหว่างการขนส่ง ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้
  2. การเพิ่มความยืดหยุ่นและความมั่นคง ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นสามารถช่วยลดความต้องการพลังงานจากแหล่งที่มาหลักและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานโดยรวม
  3. การสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น การผลิตไฟฟ้าในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้และสร้างงานให้กับชุมชน ซึ่งช่วยเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจท้องถิ่น
  4. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานทดแทนในท้องถิ่นช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  5. การแข่งขันและความหลากหลาย ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตขนาดเล็กเข้าร่วม ซึ่งเพิ่มการแข่งขันและความหลากหลายของแหล่งพลังงาน
  6. การควบคุมต้นทุน ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานที่มีต้นทุนต่ำกว่าและเลือกผู้ผลิตที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง
  7. การเพิ่มความสามารถในการปรับตัว ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นช่วยให้ผู้บริโภคสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของความต้องการพลังงานได้ดีขึ้น

เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีการนำมาใช้ในตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น

มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นและอุตสาหกรรมพลังงานที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง เช่น

  1. สมาร์ทกริด (Smart Grid) ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อจัดการการผลิตและบริโภคไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถติดตามและควบคุมการไหลของพลังงานได้แบบเรียลไทม์
  2. ระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management Systems) ช่วยในการจัดการการผลิตและบริโภคพลังงานโดยใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงาน
  3. การเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems) เทคโนโลยีการเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่ ช่วยให้สามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในยามจำเป็น ซึ่งเพิ่มความมั่นคงและยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้า
  4. เทคโนโลยี Peer-to-Peer (P2P) Trading ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถซื้อขายไฟฟ้าได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นและลดต้นทุน
  5. การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์ความต้องการพลังงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความมั่นคงของระบบไฟฟ้า
  6. Internet of Thing (IoT) ใช้ในการติดตามและควบคุมการไหลของพลังงานในระบบสมาร์ทกริด
  7. โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) รวมถึงระบบการสื่อสารและเครือข่ายข้อมูลที่ช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นในประเทศไทย

ในประเทศไทยยังไม่มีการดำเนินการตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบ แต่มีการพัฒนานโยบายและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในท้องถิ่นอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น

  1. โครงการ Peer-to-Peer (P2P) Electricity Trading มีการทดลองโครงการ P2P ในบางพื้นที่เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถซื้อขายไฟฟ้าได้โดยตรง แต่ยังไม่ได้ขยายไปทั่วประเทศ
  2. การสนับสนุนพลังงานทดแทน รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน
  3. โครงสร้างตลาดไฟฟ้าแบบ Enhanced Single Buyer (ESB) ปัจจุบันประเทศไทยใช้โครงสร้างตลาดไฟฟ้าแบบ ESB โดย EGAT เป็นผู้ซื้อและจ่ายไฟฟ้าหลัก แต่ไม่อนุญาตให้ผู้บริโภคซื้อไฟฟ้าโดยตรงจากผู้ผลิต
  4. การเรียกร้องให้มีการเปิดเสรีตลาดไฟฟ้า มีการเรียกร้องจากภาคเอกชนให้รัฐบาลเร่งเปิดเสรีตลาดไฟฟ้าเพื่อให้มีการซื้อขายไฟฟ้าได้อย่างเสรี ซึ่งจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาด

ในประเทศไทย มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นในอนาคต เนื่องจากมีการสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาดและนโยบายที่มุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทนในระบบไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายหลายประการ เช่น โครงสร้างตลาดไฟฟ้าที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด และความไม่แน่นอนของราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาไฟฟ้า

ความเป็นไปได้ในการพัฒนาตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นในประเทศไทยมีความหวังมากขึ้นเมื่อมีการสนับสนุนพลังงานสะอาดอย่างชัดเจนจากภาครัฐ รัฐบาลไทยได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดให้ถึง 51% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2037 ซึ่งเป็นนโยบายที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของพลังงานสะอาดในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการเรียกร้องให้มีการเปิดเสรีตลาดไฟฟ้าเพื่อให้มีการซื้อขายไฟฟ้าได้อย่างเสรี ซึ่งจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาด การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริด ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับการเติบโตของพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

ตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นเป็นแนวคิดที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยเน้นการผลิตและบริโภคไฟฟ้าในท้องถิ่น ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีสมาร์ทกริดเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น ในประเทศไทย มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาตลาดไฟฟ้าท้องถิ่น โดยมีการสนับสนุนจากภาครัฐในการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดและปรับปรุงโครงสร้างตลาดไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างตลาดไฟฟ้าท้องถิ่นที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

Photo : freepik

ใช้แอร์แบบไหน ประหยัดไฟได้จริง

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟค่อนข้างมาก ก็คงจะหนีไม่พ้นเครื่องปรับอากาศ หรือเราเรียกกันสั้นๆ ว่า แอร์ นั่นเอง ยิ่งในช่วงหน้าร้อนนี้ หลายคนต้องจ่ายค่าไฟมากเป็นพิเศษ เพราะเปิดแอร์กันฉ่ำๆ ตลอดวัน…

เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นถนน ทนขึ้น 10 เท่า ช่วยลดโลกร้อน

จากปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้น และเป็นขยะอีก 1 ประเภทที่กำจัดได้ยาก หากปล่อยให้ย่อยสลายเองก็ใช้เวลานานมากราวๆ 500 ปี จึงจะสลายได้หมด และหากจะกำหนดด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น…

รู้จักแผน PDP 2024 แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของไทย

สำหรับบทความนี้ทางทีมงานขอพาทุกท่านมารู้จักแผน PDP กันครับ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ทาง สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580…