ช่วงนี้ทางผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าต่างก็พากันเปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่ง CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลกในตอนนี้ ก็ได้เปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ Shenxing Plus ออกมา ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากแบตเตอรี่รุ่นเดิม Shenxing นั่นเอง โดยแบตเตอรี่รุ่นใหม่นี้มีจุดเด่นในที่การใช้เทคโนโลยีชาร์จเร็วพิเศษ 4C ที่สามารถชาร์จเพียง 10 นาที รถวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตรเลยทีเดียว และสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 1,000 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC)
สำหรับการพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิม แต่เดิมแบตเตอรี่ Shenxing นั้นจะทำระยะทางได้ประมาณ 400 กิโลเมตรเมื่อชาร์เร็ว เรียกได้ว่า Shenxing Plus แบตเตอรี่รุ่นใหม่ สามารถทำระยะทางได้มากกว่าเดิมถึง 200 กิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับการออกแบบนั้นจะใช้เทคโนโลยี Cell to Body (CTB 3.0) ซึ่งเป็นการรวมเซลล์แบตเตอรี่เข้ากับโครงสร้างตัวรถโดยตรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ ลดน้ำหนัก และเพิ่มความแข็งแรงของตัวรถ และใช้โครงสร้างแบบรังผึ้ง 3 มิติ ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และ รองรับการชาร์จเร็ว มีความหนาแน่นของพลังงาน 205Wh/kg ซึ่งเทียบได้กับแบตเตอรี่ NMC ส่วนใหญ่ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน
เรื่องความปลอดภัยนั้นก็จะใช้ เทคโนโลยี LFP มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ น้อยกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ สามารถชาร์จเร็วได้แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำถึง -20°C แบตเตอรี่รุ่นใหม่นี้ ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2025
ข้อดีของแบตเตอรี่ Shenxing Plus
- ระยะทางวิ่งไกล
- ชาร์จเร็ว
- ปลอดภัย
- อายุการใช้งานยาวนาน
- สามารถชาร์จเร็วได้แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำถึง -20°C
ข้อสังเกตของแบตเตอรี่ Shenxing Plus
- ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
- ราคาอาจจะสูง
เปรียบเทียบกับแบตเตอรี่รุ่นอื่น
คุณสมบัติ | Shenxing Plus | Li-ion ทั่วไป |
---|---|---|
เทคโนโลยี | LFP | NMC, LFP |
ระยะทางวิ่งไกล | 1,000 กม. (มาตรฐาน CLTC) | 400-600 กม. |
ความเร็วในการชาร์จ | ชาร์จ 10 นาที วิ่งได้ 600 กม. | 30 นาที ชาร์จ 80% |
อายุการใช้งาน | 3,000 รอบชาร์จ | 1,500-2,000 รอบชาร์จ |
ความปลอดภัย | สูง | ปานกลาง |
ต้นทุน | สูง | ปานกลาง |
บทสรุป
แบตเตอรี่ Shenxing Plus เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพสูง แต่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา ยังมีข้อมูลไม่มากนัก คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ กว่าจะทราบถึงประสิทธิภาพ ราคา และการใช้งานจริง ซึ่งหากมีการใช้งานจริงแล้ว จะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ สามารถวิ่งได้ไกลขึ้น ไม่ต้องชาร์จกันบ่อยๆ อีกต่อไป และแน่นอนว่าจะทำให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น และราคารถก็น่าจะถูกลงกว่าในปัจจุบัน