Highlight & Knowledge

Huawei สร้างปรากฏการณ์ แบตเตอรี่ Solid-state ชาร์จ 5 นาที วิ่งไกล 3000 กม. เปลี่ยนเกมวงการยานยนต์ไฟฟ้า

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีพลังงานสะอาดกำลังมาแรง แบตเตอรี่กลายเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดอนาคตของวงการนี้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 Huawei บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังจากจีน สร้างความตื่นเต้นด้วยการยื่นจดนวัตกรรมแบตเตอรี่ Solid-state ที่สุดยอดเกินคาด สามารถพารถยนต์วิ่งได้ไกลถึง 3000 กิโลเมตร และชาร์จเต็มในเวลาแค่ 5 นาที นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแสดงถึงความมุ่งมั่นของ Huawei ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงาน แต่ยังจุดประกายการแข่งขันครั้งใหญ่ในวงการแบตเตอรี่ Solid-state ทั่วโลก บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกนวัตกรรมสุดล้ำของ Huawei เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่อื่นๆ และสำรวจความก้าวหน้าของคู่แข่งในวงการ

แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei สุดยอดแค่ไหน

แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei เป็นนวัตกรรมที่อาจเปลี่ยนอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้สารซัลไฟด์เป็นตัวนำไฟฟ้า (electrolyte) ซึ่งมีจุดเด่นที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นเต้น ดังนี้

  • ความจุพลังงานสูงสุดในวงการ แบตเตอรี่นี้มีความจุพลังงานสูงถึง 400-500 Wh/kg มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้าถึง 2-3 เท่า โดยทั่วไป แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีความจุพลังงานราว 150-200 Wh/kg ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ประมาณ 400-600 กิโลเมตร แต่แบตเตอรี่ของ Huawei สามารถพารถวิ่งได้ไกลถึง 3000 กิโลเมตรต่อการชาร์จครั้งเดียว ลองนึกภาพรถที่ขับจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่และกลับมาได้หลายรอบโดยไม่ต้องชาร์จ นี่คือก้าวใหญ่ที่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าหมดกังวลเรื่องระยะทาง
  • ชาร์จเร็วสุดล้ำ แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei ชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 5 นาที เร็วกว่าเทคโนโลยีชาร์จเร็วในปัจจุบันที่ต้องใช้เวลา 20-40 นาที ความเร็วนี้เกิดจากการออกแบบภายในที่ช่วยให้พลังงานไหลผ่านได้ง่ายขึ้นและลดความต้านทาน การชาร์จเร็วขนาดนี้ทำให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าสะดวกเหมือนเติมน้ำมันในรถยนต์ทั่วไป หมดปัญหาการรอนานที่สถานีชาร์จ
  • ปลอดภัยและทนทานยาวนาน Huawei ใช้เทคนิคพิเศษด้วยการเติมไนโตรเจนในสารนำไฟฟ้าซัลไฟด์ เพื่อแก้ปัญหาการเสื่อมสภาพที่จุดเชื่อมต่อกับลิเธียม ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ของแบตเตอรี่ Solid-state รุ่นก่อนๆ เทคนิคนี้ช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นโดยลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลหรือลัดวงจร ต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไปที่อาจเสื่อมสภาพหลังชาร์จซ้ำหลายร้อยครั้ง แบตเตอรี่ของ Huawei จึงใช้งานได้นานกว่าและมั่นใจได้มากกว่า
  • พัฒนาวัตถุดิบสำคัญ Huawei ไม่ได้แค่สร้างแบตเตอรี่ แต่ยังมุ่งพัฒนาวัตถุดิบสำคัญอย่างสารนำไฟฟ้าซัลไฟด์ ซึ่งเป็นหัวใจของแบตเตอรี่ Solid-state ในต้นปี 2568 Huawei ยื่นจดนวัตกรรมวิธีผลิตสารซัลไฟด์ที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบัน สารนี้มีราคาแพงมาก บางครั้งแพงกว่าทองคำ แต่ Huawei หวังลดต้นทุนเพื่อให้แบตเตอรี่ Solid-state ราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายในอนาคต การพัฒนานี้แสดงถึงวิสัยทัศน์ของ Huawei ที่ต้องการควบคุมทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ
  • ใช้งานได้หลากหลาย แม้ว่า Huawei จะไม่ใช่ผู้ผลิตแบตเตอรี่โดยตรง แต่บริษัทมีแผนนำเทคโนโลยี Solid-state ไปใช้ในหลายวงการ ไม่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต นาฬิกาอัจฉริยะ และอุปกรณ์ IoT ลองนึกภาพสมาร์ทโฟนที่ชาร์จเต็มใน 5 นาทีและใช้งานได้หลายวัน หรือนาฬิกาอัจฉริยะที่แทบไม่ต้องชาร์จบ่อย นอกจากนี้ Huawei ยังมองถึงการใช้แบตเตอรี่นี้ในระบบกักเก็บพลังงานสำหรับบ้านหรือโรงงาน เพื่อสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนอย่างโซลาร์เซลล์
  • โครงสร้างทันสมัย แบตเตอรี่ของ Huawei มีการออกแบบภายในที่ช่วยให้พลังงานไหลผ่านได้ดีขึ้นและลดความร้อนขณะใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหาของแบตเตอรี่ Solid-state รุ่นเก่า การออกแบบนี้ทำให้แบตเตอรี่ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนหรือเย็น เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยที่มีทั้งแดดร้อนและฝนชุก ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะทำงานได้ดีไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน
  • ใส่ใจสิ่งแวดล้อม Huawei มุ่งสร้างแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัตถุดิบที่ลดผลกระทบต่อธรรมชาติและพัฒนากระบวนการผลิตที่สะอาดขึ้น แบตเตอรี่ Solid-state มีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของสารเคมีน้อยกว่าแบตเตอรี่แบบของเหลว ทำให้ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเลือกใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนยังช่วยลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
  • ก้าวต่อไปของ Huawei ขณะนี้ แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาและทดสอบในห้องปฏิบัติการ แต่ Huawei มีแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรในวงการยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำเทคโนโลยีนี้สู่การใช้งานจริง บริษัทตั้งเป้าว่าจะเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ภายใน 5-10 ปี ซึ่งอาจเปลี่ยนวิถีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปตลอดกาล Huawei ยังวางแผนทดสอบแบตเตอรี่ในสภาพการใช้งานจริง เช่น การขับรถในเมืองหรือทางไกล เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่ทำงานได้ดีในทุกสถานการณ์

ความท้าทายที่ Huawei ต้องฝ่าฟัน

ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei จะสุดยอดแค่ไหน แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข ดังนี้

  • ต้นทุนยังสูง การผลิตแบตเตอรี่ Solid-state มีราคาแพงมาก อยู่ที่ราว 8000-10000 หยวนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (ประมาณ 40000-50000 บาท) ซึ่งสูงเกินกว่าที่จะใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปได้ในตอนนี้ Huawei ต้องหาวิธีลดต้นทุนให้ถูกลงเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วไป
  • สถานีชาร์จต้องทันสมัย การชาร์จเร็วใน 5 นาทีต้องใช้สถานีชาร์จพลังงานสูง ซึ่งยังไม่มีใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ต้องมีการลงทุนพัฒนาสถานีชาร์จควบคู่ไปด้วย
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพ สารนำไฟฟ้าในแบตเตอรี่ Solid-state ยังนำพลังงานได้ช้ากว่าแบบของเหลวในบางกรณี และมีปัญหาเรื่องความต้านทานภายในที่ต้องปรับปรุง Huawei กำลังหาวิธีแก้ไขเพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่อื่นๆ

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าแบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei เหนือกว่าอย่างไร มาดูการเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่อื่นๆ ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน

  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion)
    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นเทคโนโลยีที่พบได้ในรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ เช่น Tesla หรือ BYD มีความจุพลังงานราว 150-200 Wh/kg ทำให้รถวิ่งได้ 400-600 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และใช้เวลาชาร์จเร็วประมาณ 20-40 นาที ข้อดีคือมีต้นทุนผลิตที่ค่อนข้างต่ำและผลิตได้ในปริมาณมาก แต่ข้อเสียคือมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การลัดวงจรหรือไฟไหม้หากได้รับความเสียหาย และอายุการใช้งานจะลดลงหลังชาร์จซ้ำหลายร้อยครั้ง
  • แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP)
    แบตเตอรี่ LFP ได้รับความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด เช่น MG หรือ BYD รุ่นเริ่มต้น เพราะมีต้นทุนต่ำและปลอดภัยกว่าลิเธียมไอออนทั่วไป โดยมีความเสี่ยงไฟไหม้น้อยกว่าและทนต่อการชาร์จซ้ำได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ความจุพลังงานของ LFP อยู่ที่ราว 100-160 Wh/kg ซึ่งต่ำกว่าลิเธียมไอออน ทำให้รถวิ่งได้ระยะสั้นกว่า (ประมาณ 300-500 กิโลเมตร) และชาร์จช้ากว่าเล็กน้อย
  • แบตเตอรี่กึ่ง Solid-state (Semi-Solid-state)
    แบตเตอรี่กึ่ง Solid-state ผสมผสานระหว่างสารนำไฟฟ้าแบบของเหลวและแบบแข็ง เพื่อลดข้อจำกัดของ Solid-state เต็มรูปแบบ เช่น การนำพลังงานที่ช้ากว่าและต้นทุนที่สูง ปัจจุบัน บริษัทอย่าง Beijing WeLion และ Farasis Energy พัฒนาแบตเตอรี่กึ่ง Solid-state ที่มีความจุพลังงาน 280-360 Wh/kg และวิ่งได้ไกลถึง 1000 กิโลเมตรในรถยนต์อย่าง NIO ET7 การชาร์จใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ข้อดีคือผลิตได้ง่ายกว่า Solid-state เต็มรูปแบบและมีต้นทุนต่ำกว่า
  • แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei
    เมื่อเทียบกับทั้งสามเทคโนโลยี แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei โดดเด่นด้วยความจุพลังงาน 400-500 Wh/kg ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ไกลถึง 3000 กิโลเมตรและชาร์จใน 5 นาที ความปลอดภัยก็เหนือกว่าเพราะใช้สารนำไฟฟ้าแบบแข็งที่ไม่ติดไฟง่าย และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าด้วยเทคนิคเติมไนโตรเจน อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือต้นทุนที่สูงและความซับซ้อนในการผลิต ซึ่ง Huawei กำลังแก้ไขด้วยการพัฒนาวัตถุดิบสำคัญอย่างสารซัลไฟด์

ตารางต่อไปนี้สรุปความแตกต่างของเทคโนโลยีแบตเตอรี่แต่ละประเภทให้เห็นภาพชัดเจน

ประเภทแบตเตอรี่ความจุพลังงาน (Wh/kg)ระยะทาง (กม.)เวลาชาร์จความปลอดภัยต้นทุน
Solid-state (Huawei)400-50030005 นาทีสูงมากสูงมาก
ลิเธียมไอออน (Lithium-ion)150-200400-60020-40 นาทีปานกลางต่ำ
ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP)100-160300-50030-50 นาทีสูงต่ำมาก
กึ่ง Solid-state280-360800-100010-15 นาทีสูงปานกลาง

ตารางนี้แสดงว่าแบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei เหนือกว่าในแง่ประสิทธิภาพทั้งความจุพลังงาน ระยะทาง และความเร็วชาร์จ แต่การนำไปใช้จริงต้องรอการพัฒนาด้านต้นทุนและสถานีชาร์จ ในขณะที่ลิเธียมไอออนและ LFP ครองตลาดด้วยราคาที่เข้าถึงได้ และกึ่ง Solid-state เป็นตัวเลือกที่สมดุลในช่วงเปลี่ยนผ่าน

คู่แข่งในวงการแบตเตอรี่ Solid-state มีใครบ้าง

Huawei ไม่ใช่รายเดียวที่พัฒนาแบตเตอรี่ Solid-state บริษัทอื่นๆ ทั่วโลกก็กำลังแข่งขันในสนามนี้ มาดูกันว่ามีใครบ้างและก้าวหน้าแค่ไหน

  • Toyota บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเป็นผู้นำในวงการนี้มานาน ในปี 2566 Toyota เปิดตัวแบตเตอรี่ Solid-state ต้นแบบที่วิ่งได้ 1200 กิโลเมตร และชาร์จเต็มใน 10 นาที ความจุพลังงานราว 350-400 Wh/kg Toyota วางแผนผลิตในเชิงพาณิชย์ภายในปี 2571 แม้ว่าระยะทางและความเร็วชาร์จจะยังสู้ Huawei ไม่ได้ แต่ Toyota มีประสบการณ์และความพร้อมด้านการผลิตรถยนต์
  • CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของจีนมีแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ Solid-state แบบผสมในปี 2570 ความจุพลังงานอยู่ที่ 300-350 Wh/kg CATL เน้นลดต้นทุนเพื่อให้แข่งขันในตลาดได้ แม้จะยังตามหลัง Huawei ในเรื่องระยะทาง แต่ CATL มีโรงงานและเครือข่ายที่แข็งแกร่ง
  • Beijing WeLion บริษัทจีนอีกแห่งที่ก้าวหน้าในวงการนี้ เริ่มผลิตแบตเตอรี่ Solid-state ขนาด 50 แอมป์ชั่วโมงแล้ว ความจุพลังงานราว 360 Wh/kg เน้นใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม แม้ระยะทางและความเร็วชาร์จจะยังไม่เท่า Huawei แต่ WeLion มีความพร้อมในการผลิตจริง
  • Samsung บริษัทเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้พัฒนาแบตเตอรี่ Solid-state ที่ใช้สารซัลไฟด์เช่นกัน คาดว่าจะวิ่งได้ 1000-1200 กิโลเมตร และชาร์จใน 15 นาที ความจุพลังงานราว 350 Wh/kg Samsung เน้นลดต้นทุนและเพิ่มความทนทาน
  • Xiaomi บริษัทเทคโนโลยีจีนยื่นจดนวัตกรรมในปี 2568 เกี่ยวกับโครงสร้างขั้วไฟฟ้าแบบผสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความจุพลังงานคาดว่าอยู่ที่ 300-400 Wh/kg แม้ยังไม่มีตัวเลขระยะทางหรือความเร็วชาร์จที่ชัดเจน แต่ Xiaomi แสดงให้เห็นถึงความสนใจในวงการนี้

การแข่งขันระดับโลกและอนาคตของวงการ

นวัตกรรมแบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei และคู่แข่งสะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า จีนกลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม โดยยื่นจดสิทธิบัตรแบตเตอรี่ Solid-state มากถึง 36.7% ของทั้งโลกในแต่ละปี ความก้าวหน้าของจีนสร้างความกังวลให้คู่แข่งจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเคยครองตำแหน่งผู้นำในอดีต

เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพเปลี่ยนเกมวงการยานยนต์ไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางหรือเวลาชาร์จอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการลดต้นทุนและพัฒนาสถานีชาร์จให้ทันสมัย หาก Huawei และคู่แข่งทำได้ แบตเตอรี่ Solid-state อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคทั่วโลก

สรุป

แบตเตอรี่ Solid-state ของ Huawei ที่ชาร์จเร็ว 5 นาทีและวิ่งได้ไกล 3000 กิโลเมตร เป็นนวัตกรรมที่อาจพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยความจุพลังงานสูงถึง 400-500 Wh/kg ความปลอดภัยที่เหนือกว่า และการออกแบบที่ทันสมัย Huawei กำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำในวงการนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP และกึ่ง Solid-state เทคโนโลยีของ Huawei โดดเด่นกว่าในแง่ประสิทธิภาพทั้งระยะทาง ความเร็วชาร์จ และความปลอดภัย ถึงแม้จะมีคู่แข่งอย่าง Toyota CATL Beijing WeLion Samsung และ Xiaomi ที่พัฒนาเทคโนโลยี Solid-state เช่นกัน การแข่งขันนี้จะผลักดันให้วงการแบตเตอรี่ก้าวหน้าต่อไป และนำมาซึ่งอนาคตที่สะอาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

Photo : carnewchina

รู้จัก “ขยะกำพร้า” ขยะที่นำไปเป็นเชื้อเพลิงสร้างพลังงานได้

ด้วยปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายสินค้าจากหน้าร้าน มาเป็นแบบออนไลน์ที่ทำให้มีปริมาณการใช้วัสดุห่อหุ้มสินค้า กล่องพัสดุ รวมถึงพวกวัสดุปิดกล่องต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดขยะเป็นจำนวนมาก รวมถึงวัสดุต่างๆ…

หน้าร้อน ทำไมค่าไฟแพง?

ช่วงนี้มีแต่คนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าค่าไฟแพงมาก บางคนค่าไฟขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว เรียกได้ว่า ทำงานหาเงินมาเพื่อจ่ายค่าไฟกันเลยทีเดียว วันนี้ทีมงานก็ได้ทำการหาข้อมูลเรื่องของค่าไฟแพงมา ซึ่งมาจากการให้ความรู้จากกูรูหลายท่าน รวมถึงการไฟฟ้าก็มีการเผยแพร่ข้อมูลความรู้เรื่องค่าไฟแพงออกมาเช่นกัน โดยเราได้ทำการสรุปและรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว หน้าร้อน ทำไมค่าไฟแพง?…

รู้จัก “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” ปูนซีเมนต์รักษ์โลก

อุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ถือว่าได้เป็นอีก 1 สาเหตุของภาวะโลกร้อน เพราะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 36.92 เมตริกตันคาร์บอนต่อปี โดยอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ทั่วโลกปล่อยก๊าซคาร์บอนอยู่ที่ 8% และเมื่อคนทั้งโลกต่างพากันคิดค้นและหาวิธีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่องให้ทำอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ได้คิดค้น “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก”…