News & Update

เปิดเทรนด์พลังงานปี’68 พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน นิวเคลียร์เล็ก CCS แรง!

ใกล้สิ้นปี2567 เข้ามาทุกที วันนี้จะพาเปิดเทรนด์พลังงานไทย ปี2568 พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจร นิวเคลียร์เล็ก CCS มาแรง รับเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป

ปัจจุบันโลกย่างก้าวสู่ยุคพลังงานสะอาดมากขึ้น เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change ประเทศไทยของเราก็เช่นกันทั้งนโยบายภาครัฐ และภาคเอกชน ธุรกิจ ต่างหันมาใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น เพื่อรับมือกับกฎกติกา การค้าโลกที่กำลังจะเปลี่ยนไป โดยปี2567 ที่ผ่านมาเทรนด์ของพลังงานสะอาดในไทยยังคงร้อนต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์

สอดคล้องข้อมูลจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ประจำปี 2567 ระบุว่า พลังงานหมุนเวียนน่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 51% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในประเทศภายในปี 2580 โดยเพิ่มขึ้นจาก 20% ในปี 2566 และการเดินหน้าสู่พลังงานสะอาดดังกล่าวนี้จะทำให้พลังงานแสงอาทิตย์กลายเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนสำคัญภายใต้แผน PDP ฉบับใหม่ โดยคาดหวังว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 33,269 เมกะวัตต์ ได้ภายในปี 2580 จากเดิมที่ผลิตได้เพียง 3,193 เมกะวัตต์ ในปี 2567

นอกจากนี้กระทรวงพลังงานของไทยยังมีแผนที่จะเปิดตลาดพลังงานให้กว้างขึ้นโดยอนุญาตให้มีการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างเอกชนภายใต้หลักเกณฑ์ใหม่สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่สนับสนุนการเชื่อมต่อโครงข่ายผู้เป็นเจ้าของโซลาร์โฟโตวอลเทอิก (PV หรือโซลาเซลล์) ให้มากขึ้น

แม้คาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการเติบโตมากขึ้น แต่ก็ยังมีอุปสรรคอีกหลายประการด้วยกัน เช่น ความไม่แน่นอนในการเข้าถึงโครงข่ายไฟฟ้า และข้อจำกัดด้านพื้นที่สำหรับการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน ตลอดจนการวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องจะมีบทบาทสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทั้งหมดของพลังงานแสงอาทิตย์

โดย เอลวา หวัง ผู้อำนวยการกลุ่มประจำเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลางของทรินา โซลาร์ เอเชียแปซิฟิก เผยว่า ปี 2568 นั้น มีแนวโน้มด้านพลังงานแสงอาทิตย์ที่น่าจับตาอยู่ 5 ประการ พร้อมด้วยเหตุผลประกอบที่น่าสนใจต่างๆ ดังนี้

  • แผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูง
  • พลังงานแสงอาทิตย์และการกักเก็บพลังงาน
  • ระบบโซลาร์เซลล์ไฮบริด
  • อะกริวอลทาอิกส์ (Agrivoltaics)
  • การประยุกต์ใช้แผงโซลาร์เซลล์เชิงสร้างสรรค์

พร้อมกันนี้ #SPRiNG จะพามาดูว่าเทรนด์พลังงานไทย ปี2568 ว่าเป็นอย่างไร พลังงานไหนจะมาแรงมาเริ่มกันที่ นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู เปิดเผยว่า พลังงานสะอาดเทรนด์กำลังมา เพราะดีต่อโลก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ปัญหาคือไม่เสถียร ส่วนพลังงานฟอสซิลมีความเสถียรค่อนข้างมากแต่ไม่รักษ์โลก ดังนั้นในปี 2568 หรือในอนาคตเราต้องเร่งหาบาลานซ์ให้ทั้ง 2 สิ่งนี้ให้ได้ เพื่อความยั่งยืนของพลังงานไทย

ทั้งนี้จะต้องบริหารพลังงานที่คาร์บอนต่ำ และพลังงานฟอสซิลที่มีความเสถียร ให้ประชาชนเข้าถึงได้ ในราคาที่เป็นธรรมไม่สูงมาก โดยแผนยุทธศาสตร์ใหม่ของบ้านปู คืออยากเป็นผู้ผลิตพลังงานผ่านการสร้างโซลูชั่นพลังงานที่ยั่งยืนในรูปแบบ มองว่าทุกพลังงานสำคัญ แต่จะต้องควบคู่ไปกับการลดคาร์บอนด้วย ซึ่งกลยุทธ์ใหม่ “Energy Symphonics” นั้น เป็นการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2573 ที่เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน ตอบสนองต่อความต้องการพลังงานของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

โดยมุ่งเน้นที่ 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.ความมั่นคงทางพลังงาน คือการจัดหาพลังงานที่เชื่อถือได้และต่อเนื่อง 2.ความเสมอภาคด้านพลังงาน คือการจัดหาพลังงานที่มีราคาสมเหตุสมผล ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และ 3.ความยั่งยืนด้านพลังงาน คือการจัดหาพลังงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับปี2568 มองว่า 5 เทรนด์สำคัญที่จะขับเคลื่อนพลังงาน คือ Net Zero , Al-Data Centers , Electrification , Resiliency , Demographics

เปิดเทรนด์พลังงานปี\'68 พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน นิวเคลียร์เล็ก CCS แรง!

มาต่อกันที่มุมมองของ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ โดย นายพัฒนาศักดิ์ นักสอน Vice President – Strategic Planning and Business Support บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ เปิดเผยว่า 2568 Data Center มีบทบาทสำคัญกับวงการพลังงาน ช่วยให้พลังงานสะอาดมีความสม่ำเสมอขึ้น และเชื่อว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กจะเริ่มมาแรงเพราะอยู่ใน แผน PDP ใหม่ด้วย อีกทั้งยังจะช่วยอุดจุดโหว่ความไม่สม่ำเสมอของพลังงานสะอาดได้

อย่างไรก็ตามมองว่าเทคโนโลยีจะมาช่วยให้พลังงานสะอาดให้มีความเสถียรมากขึ้น เช่น นิวเคลียร์ขนาดเล็กที่เราจะเห็นแผน PDP ของไทยใหม่เราใส่ไว้ปลายแผนบ้างแล้ว คาดว่าน่าจะเริ่มมีความโดดเด่นขึ้นมาตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เทคโนโลยีด้านพลังงานจะออกมาสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น

เปิดเทรนด์พลังงานปี\'68 พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน นิวเคลียร์เล็ก CCS แรง!

ต่อกันที่ ดร.ประเสริฐ  สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แผน PDP 2024 จะลดสัดส่วนก๊าซธรรมชาติเหลือ 41% พลังงานสะอาดเพิ่มเป็น 51% โดยในปีหน้าต้องเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบรองรับพลังงานไฮโดรเจน เพิ่มการหาวัตถุดิบใช้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน และใน ปี2568 นโยบายด้านพลังงานที่สำคัญของไทยจะให้ความสำคัญเรื่องการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้ามากจากก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 60% และสัดส่วนพลังงานสะอาด 26%

เปิดเทรนด์พลังงานปี\'68 พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน นิวเคลียร์เล็ก CCS แรง!

ทั้งนี้นโยบายพลังงานของไทยเน้นให้ความสำคัญการส่งเสริมพลังงานสะอาดเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผลักดันไทยสู่ Digital Hub ของอาเซียน ส่งเสริมการลงทุนโครงการ Data Center และ Cloud Service ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเห็นได้จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ โดยที่ผ่านมามากกว่า 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 167,989 ล้านบาท

ปิดท้ายกันที่ นายรัฐกร กัมปนาทแสนยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ความยั่งยืนองค์กร บมจ.ปตท. กล่าวในงาน “Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business”  เมื่อ 4 ธ.ค.2024 ที่ผ่านมาว่า ปี2568 พลังงานสะอาดยังมามาแรง แต่ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีในการลดก๊าซเรือนกระจกรองรับอย่างเทคโนโลยีการดักจับ การกักเก็บคาร์บอน มากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีไฮโดรเจน และนิวเคลียร์ขนาดเล็กก็มาแรงเช่นกัน

เปิดเทรนด์พลังงานปี\'68 พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน นิวเคลียร์เล็ก CCS แรง!

ทั้งหมดเทรนด์พลังงานไทย ปี2568 สรุปคือ พลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจร นิวเคลียร์เล็ก CCS มาแรง

Source : Spring News

พพ. จ่อชง ครม. อนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีโซลาร์รูฟท็อป 9 หมื่นครัวเรือน คาดใช้จริง ก.ค. 2567

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เสนอ 2 มาตรการต่อรัฐมนตรีพลังงานแล้ว คือ “มาตรการลดภาษีสำหรับผู้ติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป” และ “มาตรการลดหย่อนภาษีในส่วนของนิติบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ใน 13…

BYD Seagull หั่นราคาเหลือ 3.5 แสนบาท คาดปีนี้ลดเพิ่มอีก ตีตลาดแบรนด์ทั่วโลก

BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้เปิดสงครามด้านราคารถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง ล่าสุด BYD Seagull ได้ลดราคาเหลือเพียง 350,000 บาท ซึ่งถูกกว่ารถสันดาปทั่วไปเสียอีก…

ปี 2027 รถ EV ถูกกว่ารถยนต์สันดาป การแข่งขันสูงขึ้น แบรนด์น้องใหม่อาจไม่รอด

รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ในปัจจุบันถือเป็นเทรนด์ทั่วโลกที่คนให้ความสนใจ ในปี 2027 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกกว่ารถสันดาปทั่วไป…

Leave a Reply