News & Update

‘จีน’ เพิ่มพลังงานสะอาด จนก๊าซเรือนกระจกลดลง 1% ได้เป็นครั้งแรก

รายงานจากศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด (CREA) ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ “จีน” ประเทศที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดในโลก ลดลง 1% โดยภาคส่วนพลังงานเป็นภาคส่วนที่มีอัตราการลดลงสูงที่สุด 

ลอรี มิลลีเวอร์ตา นักวิเคราะห์หลักของ CREA ระบุว่า จีนได้เพิ่มจำนวนกังหันลมและแผงโซลาร์เซลล์ใหม่มากเป็นประวัติการณ์ จนสามารถผลิตไฟฟ้าจากสองแหล่งนี้ได้มากกว่าความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอยู่ที่ 3.7% ทำให้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนใช้ถ่านหินน้อยลง จนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคส่วนนี้ลงประมาณ 3%

ในช่วงห้าเดือนแรกของปีนี้ กำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไรของฟาร์มพลังงานลมและฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ลดลง แม้ว่าการติดตั้งจะชะลอตัวลงหลังจากเริ่มดำเนินการแล้ว แต่พลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นน่าจะเพียงพอที่จะช่วยลดการปล่อยมลพิษจากภาคพลังงานไปจนถึงปีหน้า

ขณะเดียวกัน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการวัสดุก่อสร้าง โลหะ ปูนซีเมนต์ และเหล็กก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงซบเซา

อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์เติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานที่แปลงถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงเหลวและก๊าซสังเคราะห์ รวมถึงส่วนประกอบของพลาสติก การใช้ถ่านหินในภาคส่วนนี้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงและวัตถุดิบเพิ่มขึ้น 20% ในช่วงหกเดือนแรกของปี 

กระบวนการทางเคมีที่ใช้ถ่านหินก่อให้เกิดมลพิษมากกว่ากระบวนการที่ใช้วัตถุดิบจากปิโตรเลียมแบบดั้งเดิม รายงานระบุว่าภาคส่วนนี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 690 ล้านตันในปี 2024 มากกว่าที่โรงงานเคมีแบบดั้งเดิมจะปล่อยออกมาราว 410-440 ล้านตัน

ทางการจีน รายงานล่าสุดว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนลดลงทุกปีตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ถึงจุดสูงสุดภายในปี 2030 และบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060

หากจีนสามารถรักษาระดับไว้เช่นนี้ต่อไปได้ จีนอาจจะปล่อยก๊าซคาร์บอนของจีนอาจถึงจุดสูงสุดก่อนเป้าหมาย แต่จีนยังคงเป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลก และจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมาก เพื่อช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ขณะเดียวกัน หากจีนต้องการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนตามที่ประกาศไว้ภายในปี 2060 จะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซจะต้องลงโดยเฉลี่ย 3% ในอีก 35 ปีข้างหน้า

การศึกษาดังกล่าวระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี จีนติดตั้งกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ 212 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังการผลิตทั้งหมดของสหรัฐที่ 178 กิกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2567 พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้แซงหน้าพลังงานน้ำในจีน และมีแนวโน้มที่จะแซงหน้าพลังงานลมในปีนี้ และกลายเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานลมประมาณ 51 กิกะวัตต์ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.

เมื่อเดือนก.ค. 2025 รัฐบาลจีนเพิ่งเปิดตัวฟาร์มโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อสร้างเสร็จ โดยมีพื้นที่ 610 ตร.กม. ขนาดเท่ากับเมืองชิคาโกของสหรัฐ มีแผงโซลาร์เซลล์มากกว่า 7 ล้านแผง และสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับ 5 ล้านครัวเรือน

เช่นเดียวกับฟาร์มโซลาร์เซลล์และฟาร์มพลังงานลมหลายแห่งของจีน ฟาร์มแห่งนี้สร้างขึ้นทางตะวันตกซึ่งมีประชากรเบาบาง แต่ความท้าทายสำคัญคือ จะส่งกระแสไฟฟ้าเหล่านี้ไปยังฝั่งตะวันออก ที่มีประชากรหนาแน่น และเต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมอย่างไร

“การกระจายทรัพยากรพลังงานสีเขียวยังคงไม่สอดคล้องกับการกระจายอุตสาหกรรมในปัจจุบันของประเทศเราอย่างสิ้นเชิง” จางจินหมิง รองผู้ว่าการมณฑลชิงไห่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวของ AP

หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาคือ การสร้างสายส่งไฟฟ้าข้ามประเทศ โดยสายหนึ่งเชื่อมต่อชิงไห่กับมณฑลเหอหนาน และมีแผนจะสร้างอีกสองสาย รวมถึงสายหนึ่งเชื่อมต่อไปยังมณฑลกวางตุ้งทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่เกือบสุดมุมของประเทศ

มิลลีเวอร์ตากล่าวว่า ในปัจจุบัน จีนยังใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาดได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากโครงข่ายไฟฟ้าของจีนได้รับการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่คงที่และควบคุมได้ มากกว่าจะมุ่งเน้นไปที่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผันผวนและคาดเดาได้ยาก

“นี่เป็นปัญหาที่ผู้กำหนดนโยบายตระหนักและกำลังพยายามจัดการ แต่มันจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของโรงไฟฟ้าถ่านหินครั้งใหญ่ และเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเครือข่ายส่งไฟฟ้าครั้งใหญ่ นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย” มิลลีเวอร์ตาสรุป

ขณะที่ หลี่ ซั่ว ผู้อำนวยการศูนย์กลางภูมิอากาศจีน ประจำสถาบันนโยบายสมาคมเอเชีย ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อธิบายว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนของจีนที่คงที่ ถือเป็นจุดเปลี่ยนในความพยายามต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญระดับโลก มอบแสงแห่งความหวังอันริบหรี่ท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่มืดมน” เขายังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นว่าแต่ประเทศสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ โดยที่เศรษฐกิจยังเติบโตได้อยู่

ทั้งนี้ หลี่เตือนว่าการพึ่งพาถ่านหินอย่างหนักของจีนยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความก้าวหน้าด้านสภาพภูมิอากาศ และกล่าวว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น


ที่มา: AP NewsBloombergReuters
Source : กรุงเทพธุรกิจ

การจัดหา “เงินทุนสีเขียว” สําหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ใน COP29

ความต้องการเงินทุนพลังงานสะอาดสําหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ได้รับการย้ําก่อน COP29 และเรื่องราวด้านพลังงานต่างๆที่น่าสนใจ 1. มุ่งเน้นไปที่การเงินสีเขียวสําหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ Fatih Birol ผู้อํานวยการบริหารของสํานักงานพลังงานระหว่างประเทศได้เน้นย้ําถึง "ความสําคัญของการส่งเสริมการจัดหาเงินทุนด้านพลังงานสะอาดในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่" และเขามองว่าเป็นหนึ่งในลําดับความสําคัญสําหรับวาระการประชุมในบากู…

ปตท.จ่อเก็บค่าชาร์จไฟ หลังเปิดให้ประชาชนทดลองชาร์จฟรีแล้ว

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.จะมุ่งไปสู่พลังงานแห่งอนาคต…

กทม.เร่งแก้ PM2.5! ผลักดันใช้รถเมล์ EV

นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ.2566 แสดงความเห็นด้วยกับ ส.ก. พรรคก้าวไกล ที่จะยื่นญัตติต่อที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร…