งาน Motor Show 2024 ปีนี้ จัดกันตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2024 ตั้งแต่เวลา 12:00 – 22:00 น. ที่อิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งคราวนี้บอกเลยว่ามีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน มาเปิดตัวเปิดขายกันเพียบ เรามาดูกันดีกว่าว่า มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กเน้นความน่ารัก ค่าตัวไม่เกิน 600,000 บาท มีรุ่นไหนกันบ้าง
Changan LUMIN น้องง่วง
มาเริ่มกันที่หลายๆ คนเรียกกันว่า “น้องง่วง” เพราะว่าการออกแบบไฟหน้านั้นดูคล้ายตาที่กำลังง่วงนั่นเอง รูปลักษณ์นั้นต้องบอกว่าน่ารักมาก โดยจะมีมาเปิดตัวกัน 2 รุ่นก็คือ LUMIN L ราคา 479,000 บาท และ LUMIN L DC ราคา 499,000 บาท ราคาห่างกันแค่ 20,000 บาทเท่านั้นเอง
LUMIN L จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 35 กิโลวัตต์ 48 แรงม้า แรงบิตสูงสุดที่ 48 นิวตันเมตร สำหรับแบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียมไอออน ความจุ 27.99 kWh รองรับการชาร์จไฟแบบ AC ใช้เวลาการชาร์จแบตจนเต็มที่ 1- ชั่วโมว สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดที่ 301 กิโลเมตร ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ค่าตัว 479,000 บาท รุ่นนี้น่าจะเหมาะกับคนที่อยากได้รถน่ารัก เอาไว้ขับในเมืองเป็นหลัก และมีที่ชาร์จอยู่ที่บ้าน ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว อยากแนะนำให้ขยับไปที่ LUMIN L DC มากกว่าเพราะชาร์จเร็วแบบ DC ได้ด้วย จ่ายเพิ่มแค่ 20,000 บาทเท่านั้นเอง
LUMIN L DC สเปคต่างๆ เกือบทั้งหมดก็จะคล้ายรุ่น LUMIN L ครับ ทั้งมอเตอร์ แรงม้า แรงบิต แต่ว่าจะแตกต่างตรงขนาดแบตเตอรี่ที่สูงกว่านิดเดียวอยู่ที่ 28.08 kWh สำหรับการชาร์จไฟ รุ่นนี้รองรับชาร์จเร็ว DC 50 kw เพิ่มเติมจากรุ่นเล็ก และสามารถชาร์จจาก 30 – 80% ได้ในระยะเวลา 35 นาทีเท่านั้น ใครชอบน้องง่วงก็ลองพิจารณากันดูนะ แต่ส่วนตัวแนะนำ LUMIN L DC ไปเลยดีกว่าครับ คุ้มค่ากว่า ส่วนต่างแค่นิดเดียว ยิ่งใครผ่อนด้วย เฉลี่ยจ่ายต่อเดือนแทบไม่ต่างกันเลย
NETA V-II รถยนต์ไฟฟ้าตัวเล็กเจน 2
สำหรับ NETA V ก็มาถึงรุ่นที่ 2 กันแล้ว รูปร่างหน้าตาก็จะคล้ายๆ กับรุ่นเดิม ปรับปรุงกระจังหน้าแบบใหม่ ใช้ไฟหน้าแบบกลมโต เพิ่มเส้นสายด้านข้างตัวรถใหม่ ไฟท้ายแบบ LED ด้านท้ายดีไซต์ใหม่ที่มีความสูงมากขึ้น เรียกว่าคงเอกลักษณ์ต่างๆ เอาไว้ โดยครั้งนี้มีมาเปิดขายกัน 2 รุ่นด้วยกันคือ NETA V-II LITE ราคา 549,000 บาท และ NETA V-II SMART ราคา 569,000 บาท
ใน NETA V-II นี้ก็มีการปรับเปลี่ยนสเปคจากรุ่นเดิมกันหลายส่วนด้วยกัน แบตเตอรี่มีขนาด 36.1 kWh (เดิม 40.7 kWh) ระยะทางวิ่งไกลสูงสุดอยู่ที่ 382 กิโลเมตร ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED ดีไซน์กระจังหน้าใหม่ พร้อมสีที่มีให้เลือก 4 สีในรุ่น LITE และ 6 สีในรุ่น SMART
ภายในมีหน้าจอขนาด 14.6 นิ่ง สำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิง และแสดงข้อมูลต่างๆ ไฟหน้ามีระบบเปิดปิดอัตโมัติ พร้อมดีไซน์ไฟท้ายใหม่แบบ LED นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Smart Key with Ride & Go Function มาให้ด้วย สำหรับรุ่น SMART นั้น เพิ่มเงินอีก 20,000 บาท จะได้ระบบการช่วยเหลือการขับขี่หรือ ADAS มาให้ด้วย เช่น ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน เป็นต้น สำหรับการเลือกซื้อรถรุ่นนี้แนะนำ SMART จะได้เรื่องความคุ้มค่ามากกว่าครับ
รุ่น SMART มาพร้อมกับ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Full-Speed Adaptive Cruise Control
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Car Start Reminder
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Waring
- ระบบเบรกอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking
- ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
ก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นไซส์เล็ก ที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากการดีไซน์นั้นถูกใจหลายคนที่ชอบรถแนวน่ารัก และที่สำคัญยังมีราคาค่าตัวถูกมาก เหมาะกับคนที่อยากได้รถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ หรือเป็นคันที่ 2 ของบ้านก็ว่าได้ เน้นใช้ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นขับรถรับส่งลูก ขับไปทำงาน ขับไปห้าง เหมาะมากด้วยราคา และระยะทางที่ขับได้ถือว่าเหมาะสมคุ้มค่า ใครสนใจดูตัวจริงๆ ก็แวะไปดูที่งาน Motor Show 2024 ได้เลย นอกจากจะได้ดู 2 รุ่นนี้แล้ว ยังมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ ราคาสูงกว่านี้มาเปิดแสดง เปิดขายกันด้วย เช่น Changan S07 , Changan L07 , MG4D, Honda e:N1 , Zeekr, XPeng , Vinfast มีเวลาก็แวะไปชมกันได้ครับ