Highlight & Knowledge

11 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนมาใช้ หลอดไฟ LED

บ้านไหนที่อยู่กันมายาวนาน แนะนำให้ลองสำรวจตรวจสอบหลอดไฟในบ้านดูครับว่าใช้หลอดไฟแบบไหนบ้าง ยังใช้หลอดไฟแบบไส้ หรือหลอดไฟธรรมดาอยู่หรือเปล่า ซึ่งหลอดไฟรุ่นเก่าเดิมๆ นั้นมีข้อเสียมากมาย บางคนอาจจะไม่เคยสนใจเลย เพราะหลอดไฟยังใช้ได้ปกติอยู่ แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีเวลาอยากให้ลองสำรวจกันดูครับ และถ้าเปลี่ยนได้ อยากแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED กัน เพราะมีข้อดีมากมาย ซึ่งในบทความนี้ เราก็จะมาเปรียบเทียบหลอดไฟแบบธรรมดา กับหลอดไฟแบบ LED ให้ดูกัน

ทำไมต้องใช้หลอดไฟ LED

หลอดไฟ LED มีข้อดีมากมาย ซึ่งจุดเด่นหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องการประหยัดไฟ ทีประหยัดกว่าหลอดไฟแบบธรรมดา นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกมากมาย ดังนี้

1. ประหยัดพลังงาน หลอดไฟ LED ใช้งานไฟฟ้า น้อยกว่า หลอดไฟแบบเก่าถึง 80% ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว หลายคนอาจจะกังวลว่าการเปลี่ยนหลอดไฟ ก็ต้องเสียเงินค่าหลอดไฟใหม่ มันจะคุ้มได้อย่างไร แต่ถ้าเราคำนวณกันใหม่แล้ว จะพบว่าในระยะยาวจะมีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะอย่างไรหลอดไฟธรรมดาเมื่อหมดอายุการใช้งานเราก็ต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ต่างจากการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบ LED แทน

2. อายุการใช้งานยาวนาน หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง ทนทานกว่าหลอดไฟแบบเก่าที่อายุการใช้งานเพียง 1,000 ชั่วโมง ซึ่งอายุการใช้งานที่มากกว่านี้ทำให้เราไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยๆ ประหยัดค่าหลอดไฟไปได้เยอะเลย

3. สว่างกว่า หลอดไฟ LED ให้ความสว่าง มากกว่า หลอดไฟแบบเก่าในระดับวัตต์ที่เท่ากัน ช่วยให้ประหยัดจำนวนหลอดไฟที่ใช้ ซึ่งแต่เดิมเราอาจจะต้องใช้หลอดไฟในพื้นที่เดียวกันเป็นจำนวนมาก เพราะแสงสว่างไม่พอ ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ที่มีกำลังไฟมากกว่า สว่างมากกว่า ทดแทนได้ โดยไม่ต้องใช้จำนวนหลอดไฟมากเหมือนเดิมอีกต่อไป

4. ปลอดภัยกว่า หลอดไฟ LED ไม่มีสารปรอท ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต่างจากหลอดไฟแบบเก่าที่มักมีสารปรอท ข้อนี้ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่สำคัญมาก

5. ร้อนน้อยกว่า หลอดไฟ LED ร้อน น้อยกว่า หลอดไฟแบบเก่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อการไหม้ รวมถึงลดความร้อนระหว่างการใช้งานอีกด้วย หากเราลองนึกดูว่าแต่เดิมเราใช้หลอดไฟแบบเก่าเป็นจำนวนมากๆ ในพื้นที่เดียวกัน จะเกิดความร้อนสะสมมากขนาดไหน ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ที่มีความร้อนน้อยลง และยังใช้จำนวนหลอดที่น้อยกว่า จะช่วยให้ความร้อนขณะใช้งานลดลงเป็นอย่างมาก

6. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลอดไฟ LED ใช้พลังงานน้อย ปลอดสารปรอท และมีอายุการใช้งานยาวนาน จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าหลอดไฟแบบเก่า

7. มีหลายเฉดสี หลอดไฟ LED มีหลายเฉดสีให้เลือก เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบางรุ่นก็สามารถปรับเฉดสีได้ผ่านรีโมท หรือแอพพลิเคชั่นอีกด้วย ปลดล็อคข้อจำกัดในเรื่องของสีได้เลย สามารถเลือกสีได้หลายร้อยสี ช่วยให้เรานำไปใช้งานได้ตามต้องการเลย ไม่ต้องมาซื้อหลอดแต่แบบระบุสีให้เปลืองเงินอีกต่อไป เพราะเราสามารถซื้อหลอดไฟ LED เพียง 1 หลอด แต่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจ

8. ดีไซน์หลากหลาย หลอดไฟ LED มีดีไซน์หลากหลาย สวยงาม ทันสมัย ด้วยข้อดีอันนี้ เราจึงได้เห็นรูปแบบหลอดไฟ LED ที่หลากลาย ไม่ว่าจะเป็นหลอดทรงกลม หลอดทรงเหลี่ยม หลอดทรงแบบกว้างขนาดใหญ่เหมือนจาก UFO ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันออก หรือใครเน้นดีไซน์ของบ้าน ก็สามารถเลือกหาหลอดไฟมาติดตั้งได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าหลอดไฟแบบเดิมๆ

9. ควบคุมแสงได้ หลอดไฟ LED บางรุ่นสามารถหรี่แสงและปรับอุณหภูมิสีได้ อันนี้ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ทำให้เราเลือกปรับความสว่างของแสงได้ตามรูปแบบการใช้งาน เช่น หลอดไฟในห้องนั่งเล่นอาจจะปรับให้สว่างมากหน่อย ส่วนห้องนอนอาจจะปรับให้มืดสักหน่อย เพื่อให้ได้บรรยากาศสำหรับการเข้านอน รวมถึงการปรับสีให้ออกโทนเหลืองๆ เพื่อความสบายตา และยังสามารถปรับเพื่อใช้งานอื่นๆ ได้อีกมากมาย

10. ทนทาน หลอดไฟ LED ทนทานต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน ด้วยกระบวนการผลิต และวัสดุที่ใช้ ทำให้หลอดไฟแบบ LED มีความทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถนำไปติดตั้งและใช้งานได้พื้นที่ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น จริงๆ ไม่เพียงแต่ใช้งานในบ้านเท่านั้น หลอดไฟแบบ LED ก็ยังมีการนำไปใช้ในรถยนต์ที่ต้องรับแรงสั่นสะเทือนในระหว่าการขับขี่อีกด้วย

11. รองรับการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น หลอดไฟแบบ LED รุ่นใหม่ มีการพัฒนาให้สามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือได้ ทำให้เราควบคุมการทำงานของหลอดไฟได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่การสั่งเปิดปิด ปรับความสว่าง ปรับสี การตั้งเวลา รวมถึงการใช้งานในรูปแบบการตั้งเงื่อนไขต่างๆ เช่น เวลาฝนตกให้เปิดอัตโนมัติ หรือเวลาเช้าให้ปิดไฟทุกดวงในบ้าน ก็สามารถทำได้เช่นกัน และยังสามารถสั่งงานในระยะไกลอีกด้วย เช่น เราไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็สามารถสั่งเปิดไฟบ้านที่กรุงเทพได้

แม้ว่าหลอดไฟแบบ LED จะมีราคาสูงกว่าหลอดไส้ หรือหลอดไฟแบบธรรมดา แต่ถ้าเรามองในเรื่องของความคุ้มค่า ความสะดวกในการใช้งาน ก็ถือว่าคุ้มค่ามากกว่าเยอะครับ สำหรับบ้านใครที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟแบบ LED แต่ยังติดขัดเรื่องงบประมาณในการซื้อหลอดไฟใหม่ แนะนำว่ารอให้หลอดเก่าเสียก่อนค่อยเปลี่ยนก็ได้ ส่วนใครไม่ได้ติดขัดเรื่องนี้แนะนำให้สำรวจและทำการเปลี่ยนได้เลย หากเรามีความชื่นชอบเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว อาจจะเลือกหลอดไฟ LED แบบที่เชื่อมกับ WiFi บ้านไปเลยก็ได้ ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย ทำให้เราสามารถควบคุมหลอดไฟผ่านมือถือได้เลย เป็นอะไรที่สะดวกกว่าเดิมมากๆ ยังไงก็ลองไปพิจารณากันดูนะครับ

Photo : freepik

5 รถยนต์ไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 500,000 บาท ปี 2025 คุ้มค่าน่าใช้

ในปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ที่มีราคาต่ำกว่า 500,000 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือต้องการรถคันที่สองสำหรับเดินทางในเมือง รถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มนี้แม้จะมีขนาดเล็ก…

แอร์โซล่าเซลล์คืออะไร น่าใช้มั้ย ประหยัดไฟได้แค่ไหน

เครื่องปรับอากาศถือได้ว่าเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟค่อนข้างมากในอันดับต้นๆ ซึ่งหลายท่านก็พยายามหาวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้เครื่องปรับอากาศกินไฟให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิดเป็นเวลา หรือเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน การตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา บางท่านก็ลองวิธีที่มีการแนะนำต่อๆ…

หน้าต่างโซลาร์เซลล์แบบโปร่งใส เทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อบ้านประหยัดพลังงาน

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การค้นหาแหล่งพลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน โซลาร์เซลล์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้อจำกัดด้านพื้นที่ติดตั้งทำให้หลายคนยังคงลังเลที่จะลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์กัน ล่าสุด ได้มีการคิดค้น นวัตกรรมใหม่ "แผงโซลาร์เซลล์แบบโปร่งใส" ซึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนเกมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในเขตเมือง ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าเข้ากับกระจกหน้าต่างอาคาร…