ช่วงหน้าร้อนนอกจากอากาศร้อนแล้ว ค่าไฟก็ขึ้นแทบทุกบ้านเช่นกัน และหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ทุกคนใช้อย่างเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟค่อนข้างมาก ท่านที่เปิดเฉพาะตอนนอน ก็ดีหน่อย แต่บางท่านเปิดกันทั้งวันทั้งคืน ค่าไฟนั้นเพิ่มจากปกติหลายเท่าอย่างแน่นอน และวันนี้ทางทีมงานได้สรุปวิธีการใช้แอร์แบบไหน ถึงจะประหยัดไฟที่สุดมากฝากกัน รับรองว่าสามารถช่วยลดค่าไฟให้กับทุกท่านได้อย่างแน่นอน เพราะมีหลายท่านใช้วิธีต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่าช่วยลดค่าไฟได้จริงๆ
1.ล้างแอร์ และทำความสะอาด
สำหรับท่านที่ใช้แอร์แล้วไม่เคยทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นเลย แนะนำว่าให้ถอดออกมาทำความสะอาดกันก่อนเลย ซึ่งแผ่นกรองฝุ่นก็จะมีทั้งแบบที่โดนน้ำได้ และแบบที่เป็นกรองกระดาษไม่สามารถล้างด้วยน้ำได้ ก็จัดการทำความสะอาดกันให้เรียบร้อย เผื่อให้ลมสามารถผ่านเข้าสู่แอร์ได้สะดวกยิ่งขึ้น และใครที่ไม่เคยล้างแอร์เลย ก็มีคำแนะนำว่าควรล้างปีละ 1 ครั้ง ซึ่งจะช่วยกำจัดเศษฝุ่น และคราบสกปรกต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ภายใน ช่วยลดภาระในการทำงานของเครื่อง และยังช่วยเครื่องการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย ใครที่ล้างเองได้ ก็สามารถหาซื้อน้ำยา และอุปกรณ์ผ่านร้านค้าออนไลน์ได้เลย แต่อาจจะไม่สะอาดทุกส่วน หากเป็นไปได้จ้างช่างมาล้างแอร์ แบบถอดออกมาล้าง เป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ เดี๋ยวนี้มีให้บริการเยอะแยะมากมาย ราคาอยู่ในช่วง 500 – 1,200 บาทต่อเครื่องโดยประมาณ
2.จำกัดพื้นที่ในการเปิดแอร์
แอร์ทุกเครื่อง จะมีความสามารถในการทำความเย็นตามสเปคเครื่อง เวลาเลือกซื้อเราก็จะได้คำแนะนำว่าควรเลือกขนาดเครื่องให้เหมาะสมกับพื้นที่ แต่บางท่านติดตั้งแอร์ในห้องที่อาจจะไม่เหมาะสม ด้วยข้อจำกัดต่างๆ เช่น เป็นบ้านรุ่นเก่าที่มีโถงขนาดใหญ่เต็มชั้น 1 หรือเรียกได้ว่าเป็นห้องเปิดโล่งขนาดใหญ่มาก เวลาเปิดแอร์ กว่าแอร์จะสามารถทำความเย็นได้ทัน ก็ใช้เวลาพอสมควร และแอร์ก็ต้องทำงานตลอดเวลา ทำให้ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมาก วิธีแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ก็คือ ให้ลดพื้นที่เปิด ซึ่งบางท่านก็ติดตั้งฉากกั้นแบบเลื่อนเปิด-ปิดได้ เพื่อลดขนาดพื้นที่ห้องลง ส่วนไหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้แอร์ ก็ปิดลงไปเลย ซึ่งก็ยังคงสามารถเปิดฉากกั้นเพื่อใช้พื้นที่ได้ดังเดิม ซึ่งการลดขนาดพื้นที่ลง แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้นนั่นเอง
3.ตั้งอุณหภูมิ 26 – 27 องศา และเปิดพัดลมไปด้วย
ปกติจะมีคำแนะนำให้เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา เป็นค่ากลางที่ใช้ได้กับทุกคน ทุกสถานที่ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้มีคำแนะนำใหม่สำหรับคนที่ต้องการประหยัดไป คือ ให้ตั้งอุณหภูมิไปที่ 26 หรือ 27 องศา ตามความเหมาะสมในการใช้งาน และสถานที่ของแต่ละท่าน พร้อมให้เปิดพัดลมช่วย เพื่อช่วยให้ความเย็นกระจายไปทั่วห้อง ตัวพัดลมเองกินไฟน้อยกว่าแอร์มา เรียกว่าต่ำกว่าประมาณ 10 เท่านั้น เมื่อมาทำงานช่วยกันทั้งแอร์ และพัดลม ก็ช่วยประหยัดไฟได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว แถมเรายังได้ความเย็นกระจายไปทั่วห้องอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ต้องบอกว่า มีคนทดลองทำแล้ว พบว่าช่วยประหยัดไฟได้จริงๆ แต่ก็อยากให้ดูตามความเหมาะสมด้วย เพราะถ้าพื้นที่ที่ใช้มีบริเวณใหญ่มากๆ ความเย็นอาจจะไปไม่ทั่วถึง แนะนำให้ลดอุณหภูมิให้ต่ำกว่าที่แนะนำ และสามารถเปิดพัดลมช่วยได้เช่นกัน
4.งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดความร้อนสูง ในขณะเปิดแอร์
เรื่องนี้อาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เวลาใช้งานมีความร้อนเกินขึ้นใหม่ เช่น เตาไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหาร ไดร์เป่าผม เตารีด เป็นต้น เพราะการเปิดแอร์เพื่อทำความเย็น แล้วมีความร้อนเกิดขึ้น จะส่งผลให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น ใช้ไฟมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นเราควรปรับรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่น อาจจะเป่าผมด้วยไดร์เป่าผมให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยเปิดแอร์ในห้องนอน หรือจะรีดผ้า ก็แนะนำให้เปิดพัดลมเป่าตัวเราให้แรงกว่าเดิม หรือใครจะใช้เตาไฟฟ้าประกอบอาหาร ก็อาจจะเปิดหน้าตา ประตูห้อง เพื่อทำอาหารให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยเปิดแอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้อย่างแน่นอน
5.ตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้า
แอร์ส่วนใหญ่จะมีระบบตั้งเวลาปิดมาให้แล้ว บางรุ่นก็อาจจะตั้งได้ทั้งเปิดและปิด ซึ่งแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นนี้ เพราะหยุดการทำงานของแอร์ เช่น เราอาจจะตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนเวลาที่เราจะตื่นนอนสักครึ่งชั่วโมง แค่วิธีง่ายๆ แค่นี้ก็สามารถช่วยประหยัดไฟได้แล้ว แต่ก่อนตั้งเวลา ก็อย่าลืมตั้งนาฬิกาที่รีโมทให้ตรงด้วย บางรุ่นถ้าไม่สามารถกำหนดเป็นเวลาได้ ได้เป็นแบบกำหนดจำนวนนาที หรือชั่วโมง ก็ให้นับเวลาให้ดีก่อนจะตั้ง สำหรับคนที่กังวลว่า ตั้งปิดแอร์ก่อนเวลาตื่น จะทำให้ร้อนไม่มีอากาศหายใจหรือไม่ ต้องบอกว่า หลังจากปิดแอร์แล้ว ความเย็นจะยังคงอยู่ประมาณ 30 นาที ทำให้เรายังรู้สึกสบาย ไม่ร้อน
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 วิธีที่ช่วยประหยัดไฟจากการใช้แอร์ ซึ่งมีคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอร์ด้วย หากใครที่ใช้แอร์เก่า กินไฟเยอะ มีขนาดไม่เหมาะสมกับพื้นที่ แนะนำให้มองหาแอร์ตัวใหม่มาเปลี่ยนใช้งาน หากมีงบประมาณนะครับ เพราะแอร์รุ่นใหม่นั้นกินไฟน้อยกว่าแอร์รุ่นเก่าๆ ค่อนข้างมาก หากมองในระยะสั้นอาจจะไม่คุ้มค่า แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้วคุ้มค่ากว่ามาก ทั้งค่าไฟที่จะลดลง และการรับประกันตัวแอร์ที่มีให้ เวลาแอร์มีปัญหาจะได้ไม่ต้องเสียค่าซ่อม
ก็ลองเอาไปทำกันนะครับ รับรองว่าประหยัดไฟกว่าเดิมแน่นอน
Photo : freepik