Xiaomi ก้าวไปอีกขั้นในตลาด EV การเปิดตัว SU7 Ultra ได้สาธิตความทนทานด้วยการโยนแตงโมจากชั้น 6 พร้อมแรงม้าสูงสุดถึง 1,526 แรงม้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.98 วินาที
Xiaomi สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Xiaomi SU7 Ultra รถยนต์ไฟฟ้าซีดานเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ล้ำสมัย แต่ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและสมรรถนะที่เหนือชั้น
CREDIT : Xiaomi
Xiaomi เลือกวิธีการนำเสนอความปลอดภัยของแบตเตอรี่ที่ไม่เหมือนใคร โดย Lei Jun CEO ของบริษัท ได้ทำการโยนแตงโมที่เคลือบด้วย “สารเคลือบกันกระสุน” จากชั้น 6 ของอาคารโรงงาน
ผลปรากฏว่าแตงโมไม่ได้รับความเสียหายใดๆ สะท้อนถึงความทนทานของเทคโนโลยีเดียวกันที่ใช้กับชุดแบตเตอรี่ของ SU7 Ultra ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายจากการกระแทก การเจาะทะลุ และการเสียดสี
CREDIT : Xiaomi
Xiaomi SU7 Ultra ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (Cell-to-Body) ที่รวมเซลล์แบตเตอรี่เข้ากับโครงสร้างตัวถังรถโดยตรง ทำให้ประหยัดพื้นที่ เพิ่มความแข็งแกร่ง และลดน้ำหนัก นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- โครงสร้างเสริมความแข็งแรง 14 ชั้น : พร้อมคานเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ
- ระบบระบายความร้อนแบบแอคทีฟขนาดใหญ่ 7.8 ตร.ม. : ช่วยควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฉนวนแอโรเจล : ป้องกันความร้อนและลดความเสี่ยงจากไฟไหม้
- ระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ขับเคลื่อนด้วย AI : ตรวจสอบและควบคุมการทำงานของแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์
- การตรวจสอบบนคลาวด์ : ช่วยติดตามสถานะของแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง
CREDIT : Xiaomi
Xiaomi SU7 Ultra มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ HyperEngine V8s และมอเตอร์เดี่ยว HyperEngine V6 ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 1,138 กิโลวัตต์ (1,526 แรงม้า) และแรงบิด 1,770 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ NMC ขนาด 93.7 kWh จาก CATL รองรับการชาร์จเร็ว DC 5.2C ชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 11 นาที และให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 620 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
สมรรถนะที่โดดเด่นของ SU7 Ultra ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.98 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่เกิน 359 กม./ชม. (ก่อนถูกจำกัดด้วยซอฟต์แวร์)
การเปิดตัว Xiaomi SU7 Ultra ถือเป็นก้าวสำคัญของ Xiaomi ในการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทั้งในด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่และสมรรถนะของรถยนต์
Xiaomi SU7 Ultra ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ที่มา : CarNewsChina
Source : Spring News