จริงหรือที่ว่า…วัยรุ่น Gen Z เสพติดฟาสต์แฟชั่นมากที่สุด แม้ปากจะบอกว่ารักษ์โลก หรือใส่ใจสิ่งแวดล้อมก็ตาม สปริงชวนติดตามเรื่องราวนี้ พร้อมดูผลกระทบของฟาสต์แฟชั่นต่อโลกของเรา
Gen Z คือกลุ่มที่ชอบซื้อสินค้าฟาสต์แฟชั่นมากที่สุด
ประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้งโดย ThredUp แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายสินค้ามือสอง โดย ThredUp ได้ทำการสำรวจกลุ่ม Gen Z ในประเด็นเรื่องการซื้อเสื้อผ้าของพวกเขา
Lottie Lashley วัย 25 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถาม เปิดเผยว่า ช่วงที่เธอเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย สภาพแวดล้อม สังคม หรือเทรนด์ของในโซเชียล บีบบังคับให้เธอต้องซื้อเสื้อผ้ามากขึ้นโดยไม่จำเป็น
Lottie บอกว่าเธอใช้เวลายามว่างไปกับการเลือกสรรเสื้อผ้าใหม่ ๆ เพราะเธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่ใส่ไปแล้ว ห้ามใส่ซ้ำ มิเช่นนั้นอาจถูกมองหรือถูกจับสังเกต ทำให้เธอเสียเงินไปกับการซื้อชุดใหม่ราว 120 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน หรือประมาณ 4,416 บาท
Gen Z นิยมซื้อฟาสต์แฟชั่นมากที่สุด Credit ภาพ Reuters
ThredUp สรุปว่า กลุ่มวัยรุ่น Gen Z เป็นกลุ่มคนที่ซื้อสินค้าฟาสต์แฟชั่นมากที่สุด ขณะเดียวกัน เราอาจจะได้ยินมาบ้างว่าเด็กรุ่นใหม่ หรือวัยรุ่นที่เกิดในยุค 2000s เป็นต้นมานั้นให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
รู้หรือไม่ว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าอุตฯ การบินเสียอีก
แต่ในยุคที่โลกออนไลน์ยังคงเป็นใหญ่ แถมมีอิทธิพลในเรื่องการสร้างค่านิยม รสนิยม เทรนด์ หรือป้อนความคิดให้กับคนทั่ว ๆ ไปได้ เห็นทีปัญหาฟาสต์แฟชั่นคงจะไม่หมดไปเร็ว ๆ นี้ เวลาเห็นอินฟลูเอนเซอร์สวมชุดสวย คนก็แห่ตามไป cf กันเป็นแถวแล้ว…จริงไหม
ทิ้งท้ายกันไปด้วยผลลัพธ์ของปัญหาฟาสต์แฟชั่น หลายคนอาจเข้าใจว่า…Fast Fashion มันไม่ดี แต่มันไม่ดียังไง สปริงรวบรวมมาให้เป็นข้อ ๆ เอาให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลย
- อุตสาหกรรมแฟชั่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 8 – 10% มากกว่าอุตฯ การบิน และอุตฯ ขนส่งรวมกัน
- ฝ้ายที่ใช้ในอุตฯ แฟชั่น ใช้พื้นที่เพาะปลูกราว 2.5% ของโลก
- กระบวนการผลิตเสื้อผ้าใช้สารเคมี 43 ล้านตันต่อปี
- อุตฯ แฟชั่นใช้น้ำเยอะมาก เช่น เสื้อ 1 ตัวใช้น้ำ 2,700 ลิตร กางเกงยีนส์ 1 ตัวใช้น้ำ 10,000 ลิตร
ที่มา: New York Post
Source : Spring News