Zhidou Rainbow รถยนต์ไฟฟ้าไซส์มินิ ดีไซน์น่ารัก โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.6 – 2.2 แสนบาท โดยสเปคของรถรุ่นนี้จะน่าสนใจแค่ไหน มาดูกัน

Zhidou Rainbow รถยนต์ไฟฟ้าไซส์มินิ หรือที่เรียกกันว่า Mini EV ที่น่าสนใจด้วยราคาเปิดตัวเพียง 1.6 แสน – 2.2 แสนบาท ถึงแม้จะวิ่งไม่ได้ไกลมากนัก แต่ก็ถือว่า Zhidou จะเข้ามาตีตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้เดินทางไกล 

Zhidou Rainbow เปิดตัว Mini EV ราคาเริ่มต้น 1.6 แสนบาท สเปควิ่งไกล 205 กม.

Zhidou ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์จีนแรกๆที่เริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งได้มีทั้ง Zhidou D1, D2, D3 และล่าสุดคือ Zhidou Rainbow นั่นเอง โดย Zhidou ยังมีดีกรีเป็นแบรนด์ในเครือของ Geely อีกด้วย 

สเปค Zhidou Rainbow 

Zhidou Rainbow มีขนาดตัวรถ ยาว 3,224 มม. กว้าง 1515 มม. สูง 1,630 มม. และระยะฐานล้อ 2,100 มม. ซึ่งจะเป็นรูปแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง 

Zhidou Rainbow เปิดตัว Mini EV ราคาเริ่มต้น 1.6 แสนบาท สเปควิ่งไกล 205 กม.

Zhidou Rainbow มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 20 kW, 30 kW จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตจาก Guoxuan Hi-Tech ชุดแบตเตอรี่มีความจุ 9.98 kWh, 17.18 kWh และ 17.3 kWh ซึ่งระยะการเดินทางอยู่ที่ 125 กม, 201 กม. และ 205 กม. (มาตรฐาน CLTC) ตามรุ่นย่อย

Zhidou Rainbow เปิดตัว Mini EV ราคาเริ่มต้น 1.6 แสนบาท สเปควิ่งไกล 205 กม.

ดีไซน์ภายในของ Zhidou Rainbow จะมากับโทนสีชมพู พร้อมพวงมาลัยแบบก้านคู่ แผงหน้าปัด LCD ขนาด 5 นิ้ว และหน้าจอควบคุมส่วนกลางของรถขนาด 9 นิ้ว และยังคงมีปุ่มควบคุมอยู่ใต้หน้าจอกลาง

Zhidou Rainbow เปิดตัว Mini EV ราคาเริ่มต้น 1.6 แสนบาท สเปควิ่งไกล 205 กม.

ฟีเจอร์ของ Zhidou Rainbow สามารถควบคุมรถด้วยโทรศัพท์มือถือจากระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อกรถ, การค้นหารถจากระยะไกล, การชาร์จตามกำหนดเวลา และการอัปเดต OTA

นอกจากนี้ ในอีก 3 ปีข้างหน้า Zhidou วางแผนที่จะเปิดตัวโมเดล 8 รุ่น และในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเปิดตัวรุ่นทั้งหมด 16 รุ่น ซึ่งถือว่าน่าสนใจเพราะอนาคตรถ Mini EV ก็จะเข้ามาตอบโจทย์ผู้ใช้ที่งบประมาณจำกัดแต่ต้องการประหยัดค่าน้ำมันด้วยรถ EV 

ที่มา : carnewschina

Source : Spring News

กลุ่มธุรกิจเรเว่ เดินหน้าต่อยอดความแข็งแกร่งทางธุรกิจผ่าน ‘เรเว่ บัสแอนด์ทรัค’ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ BYD Commercial Vehicle เตรียมจัดตั้งโรงงานประกอบรถบรรทุกและรถขนส่งโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ BYD นอกประเทศจีนเป็นแห่งแรกในไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเรเว่ในการขยายขอบเขตธุรกิจให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและยกระดับอุตสาหกรรมการคมนาคมขนส่งของไทยขึ้นไปอีกขั้น ด้วยโซลูชันสำหรับการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มาพร้อมนวัตกรรมพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีแห่งอนาคต พร้อมสานต่อภารกิจการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น NEV Nation อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ โรงงานประกอบรถโดยสารและรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าสำหรับธุรกิจเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ BYD ของ เรเว่ บัสแอนด์ทรัค จะดำเนินการประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในและภายนอกของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงยานยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่อื่นๆ ได้แก่ รถโดยสารและรถบรรทุก ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแบตเตอรี่และนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ เทคโนโลยี BYD IRON-PHOSPHATE BATTERY แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อุตสาหกรรมสิทธิบัตรเฉพาะของ BYD ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และจ่ายกำลังไฟได้อย่างคุ้มค่า ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และนวัตกรรม 6-in-1 MOTOR CONTROLLER ที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพ และอีกมากมาย

นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่รถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลแบรนด์ BYD ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้แสดงให้เราเห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งและพิสูจน์ความสำเร็จด้วยการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว วันนี้ BYD Commercial Vehicle มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเดินหน้าขยายขอบเขตการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมความต้องการของภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมการคมนาคมและขนส่ง ด้วยรถโดยสารและรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของ BYD เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการ ทั้งยังช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยมีโอกาสสัมผัสยานยนต์พลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “เรเว่ บัสแอนด์ทรัค โดยกลุ่มธุรกิจเรเว่รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการก่อตั้งโรงงานประกอบยานยนต์จาก BYD Commercial Vehicle นอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย เราเชื่อว่าโรงงานแห่งนี้นอกจากจะส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในไทยได้อย่างมหาศาล ยังจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการพลิกโฉมอุตสาหกรรมรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่จากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า สนับสนุนให้ภาคธุรกิจลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการขนส่ง และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับอีวีทุกประเภทในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับมติของการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ครั้งที่ 1/2567 ที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจเรเว่ที่ต้องการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรและพร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ NEV Nation อย่างยั่งยืน”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “นอกเหนือจากการนำเสนอรถโดยสารและรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า BYD ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันเหนือชั้น เรเว่ บัสแอนด์ทรัค ยังพร้อมมอบบริการหลังการขายคุณภาพจากทีมงานและทีมวิศวรกรมากประสบการณ์ในการตรวจสอบและดูแลผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร ตลอดจนมีชิ้นส่วนอะไหล่ไว้ให้บริการอย่างครบครัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจให้ผู้ประกอบการธุรกิจด้านคมนาคมขนส่งสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง ทั้งยังจะได้มีบทบาทในการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมทั้งระบบ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมไร้มลพิษและสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสู่อนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกคนในสังคม”

ทั้งนี้ เรเว่ บัสแอนด์ทรัค ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นและพร้อมสานต่อความไว้วางใจจาก BYD Commercial Vehicle ในการจัดตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย ที่จะเสริมสร้างคุณค่าและเสริมทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ ณ จุดที่สำคัญของเส้นทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย

Source : MGROnline

CALB บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV สัญชาติจีน โดยการตั้งโรงงานนอกจีนของ CALB ถือว่าไทยเป็นประเทศที่ 2 ของโลกที่ได้เข้ามาลงทุนจดทะเบียนมูลค่า 2 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มงบขึ้นอีกหลังขออนุมัติ BOI

CALB หนึ่งในบริษัท Top 5 ของโลกในด้านการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยขณะนี้ได้เข้ามาจดทะเบียนลงทุนในไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท ซี เอ แอล บี (ประเทศไทยจํากัด) ทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท โดยทาง TDR (Thailand Development Report) คาดการณ์ว่า CALB จะขออนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ก่อน แล้วจึงเพิ่มทุนจดทะเบียนในภายหลัง

CALB บริษัท Top 5 จีน ตั้งโรงงานผลิตแบตฯ EV ในไทย ชี้ประเทศก้าวสู่ EV Hub อาเซียน

CALB มีดีกรีเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV ระดับท็อป 5 ของจีน โดยประธาน Liu Jingyu ของ CALB ได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนในการลดการปล่อยคาร์บอนและความต้องการแบตเตอรี่ยานยนต์คุณภาพสูงที่ยั่งยืน แม้ว่ายอดขายรถยนต์ BEV ในตลาดตะวันตกจะชะลอตัวลง แต่ Liu ก็ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของภาคส่วนนี้ โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง

CALB บริษัท Top 5 จีน ตั้งโรงงานผลิตแบตฯ EV ในไทย ชี้ประเทศก้าวสู่ EV Hub อาเซียน

ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมระยองถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยเฉพาะจีนที่ต้องการมาสร้างฐานการผลิตและส่งออกในไทยหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น BYD, MG และค่ายรถอื่นๆก็มีความสนใจที่จะลงทุนสร้างโรงงานในไทย เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลต่างๆมีการสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี, สนับสนุนการลงทุน และอื่นๆอีกมากมาย

ขณะนี้ CALB ก็ได้เข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในไทย แม้จะเป็นงบเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท แต่เชื่อว่าหลังการพูดคุยและเซ็นสัญญา BOI จะทำให้ CALB เพิ่มงบการลงทุนและเข้ามาผลิตแบตเตอรี่ EV ในไทยอย่างเต็มรูปแบบ 

ซึ่งอย่างไรก็ตามการก้าวสู่ EV Hub ของอาเซียนยังคงต้องพึ่งพาปัจจัยต่างๆอีกมากที่รัฐบาลและองค์กรต่างๆต้องสนับสนุน โดยประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนก็มีความต้องการจะเป็น EV Hub เช่นกัน 

การลงทุนครั้งนี้ของ CALB มีแนวโน้มว่าอาจทำให้รถ EV ในไทยมีราคาถูกลงก็เป็นได้ เนื่องจากฐานการผลิตในไทยเริ่มมีจำนวนมาก ซึ่งอนาคตประเทศไทยเราจะมีแหล่งการผลิตทั้งการประกอบรถ, ผลิตชิ้นส่วนต่างๆของรถ EV ซึ่งการที่ CALB บริษัทติดท็อป 5 มาตั้งฐานการผลิตเพิ่มในไทย ถือเป็นข่าวดีสำหรับวงการรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้

Source : Spring News

ททท.ชี้ตลาดรถอีวีเติบโตในไทยช่วยหนุนการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ชี้พฤติกรรมคนหันมาใช้รถอีวีในการขับท่องเที่ยวมากขึ้น แนะภาครัฐเพิ่มการปรับปรุงถนน อบรมอู่ ช่างซ่อมแต่ละพื้นที่ให้ซ่อมรถอีวีเบื้องต้นได้ ชี้ช่วยหนุนท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สร้างอาชีพ

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าจากกระแสตอบรับรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศไทยที่มีความนิยมมากขึ้น เห็นจากยอดสั่งซื้อและการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 – 3 ปีทีผ่านมาทำให้ ททท.เตรียมที่จะจัดทำแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับผู้ใช้รถอีวีโดยจะบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี 2568

‘ททท.’ จับจังหวะตลาด ‘รถEV’ โต  หนุนเพิ่มโอกาสท่องเที่ยวไทย

ทั้งนี้เทรนด์การใช้รถอีวีจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศได้เนื่องจากปัจจุบันรถอีวีมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 400 กิโลเมตรหรือมากกว่าต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง  ขณะที่สถานีชาร์จก็มีให้บริการมากขึ้น และการใช้ไฟฟ้าทำให้ต้นทุนการเดินทางท่องเที่ยวลดลงเมื่อเทียบกับการเติมน้ำมัน ซึ่งที่ผ่านมา ททท.ได้ร่วมกันทำแคมเปญกับเครือข่ายเช่นเกรทวอลล์มอเตอร์ (GWM) ที่มีการจัดคาราวานอีวี Green Road Trip 5 เส้นทาง 5 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด สุขกาย สุขใจ สุขทันที ที่เที่ยวไทย เป็นต้น ซึ่งเป็นทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการส่งเสริมการลดคาร์บอนซึ่งเป็นแนวทางที่ ททท.สนับสนุน

อย่างไรก็ตามจากการหารือกับภาคเอกชนยังมีข้อที่จะต้องส่งเสริม และปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อให้การท่องเที่ยวโดยรถอีวีเติบโตขึ้น ส่วนแรกคือการพัฒนาถนน โดยเฉพาะถนนเมืองรองให้อยู่ในสภาพดี เพื่อให้ผู้ใช้รถมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับแบตเตอรี่ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของรถอีวี  

 ขณะที่อีกส่วนที่สำคัญคือการพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการซ่อม ดูแลรถอีวี ให้กระจายไปในทุกพื้นที่ของประเทศเนื่องจากในพื้นที่เมืองรองหลายจังหวัดยังไม่มีศูนย์ที่จะรองรับการซ่อมรถอีวีได้จึงควรจะมีช่าง หรืออู่รถที่สามารถแก้ปัญหา หรือซ่อมรถอีวี ซึ่งอาจเป็นการซ่อมแซมเบื้องต้น หากรถมีปัญหาสามารถที่จะช่วยซ่อมและแก้ปัญหาให้ผู้ใช้รถอีวีได้

“ตอนนี้มีบางค่ายรถจากยุโรปที่ทำอยู่ โดยให้มีอู่ในต่างจังหวัดที่สามารถซ่อมรถยี่ห้อนี้ได้หากไปเสีย หรือมีปัญหาในต่างจังหวัด การส่งเสริมให้ผู้ใช้รถอีวีในการท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรมีแผนในการเตรียมความพร้อมในส่วนนี้ด้วย เพราะตอนนี้เทรนด์รถไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโต หากสามารถทำได้ก็จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและการสร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มขึ้นด้วย”          นางสาวสมฤดี กล่าว

ตัวอย่างเส้นทางขับรถอีวีเที่ยว 5 เส้นทาง

สำหรับ 5 เส้นทาง 5 ภูมิภาคที่ ททท.เคยทำ กับ GWM ภายใต้แนวคิด “สุขกาย สุขใจ สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ในการขับรถอีวีเที่ยวประกอบด้วย

เส้นทางที่ 1 ภูมิภาคภาคกลาง เส้นทาง ลุยธรรมชาติ กับรถ GWM TANK off road SUV สุดเท่ จังหวัดกาญจนบุรี

เส้นทางที่ 2 ภูมิภาคภาคเหนือ เส้นทาง UNESCO อโยธยา สู่ ทวาราวดี ศรีเทพ ย้อนรอยประวัติศาสตร์กับ GWM HAVAL H6 HEV จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – ลพบุรี – เพชรบูรณ์

เส้นทางที่ 3 ภูมิภาคภาคอีสาน เส้นทาง GEO PARK ตามรอยจูราสสิคพาร์ค มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานกับ GWM HAVAL JOLION HEV จังหวัดสระบุรี – นครราชสีมา

เส้นทางที่ 4 ภูมิภาคภาคใต้ เส้นทางตามหาสมบัติบนเขาใต้ท้องทะเลอ่าวไทย กับ GWM HAVAL H6 HEV จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ

เส้นทางที่ 5 ภูมิภาคภาคตะวันออก เส้นทาง 3 สมุทร กับน้องแมวสุดคิ้วท์ GWM

Source : กรุงเทพธุรกิจ

รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ในปัจจุบันถือเป็นเทรนด์ทั่วโลกที่คนให้ความสนใจ ในปี 2027 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกกว่ารถสันดาปทั่วไป ซึ่งชี้ให้เห็นว่าทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาให้ต้นทุนการผลิตถูกลง

รถ EV จะถูกลงและถูกกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้Gartnerคืออนาคต แต่ในปัจจุบันเราได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งกันบนถนนบ่อยๆหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นจากค่าย BYD, MG หรือ Tesla และยังมีแบรนด์อื่นๆอีกมากมายที่เข้ามาจำหน่ายในไทย

ซึ่งในประเทศไทยในหลายพื้นที่ก็มีจุดชาร์จและศูนย์บริการรองรับแล้ว ซึ่งล่าสุด Gartner ได้มีการวิเคราะห์ว่า รถ EV จะถูกกว่ารถสันดาปทั่วไปในปี 2027 หรืออีกภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก

Credit : ArenaEV

หากพูดถึงรถ EV ก็คงต้องพูดถึง แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุด แต่สิ่งที่เรียกว่า “gigacasting” ได้สร้างผลกระทบกับวงการรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตรถยนต์ต้องการสร้างชิ้นส่วนตัวถังจากโลหะชิ้นเดียวเท่านั้ นแทนที่จะต้องเชื่อมและติดชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยตัวอย่างคือ Tesla ได้ใช้เทคนิคนี้ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในกระบวนการนี้ได้เป็นจำนวนมาก

นักวิเคราะห์กำลังแนะนำว่าภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ราคาของการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าอาจพอๆ กันและอาจลดลงต่ำกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไปด้วยซ้ำ 

ในกระแสที่ไม่เอื้ออำนวย รถ EV เหล่านี้มีการออกแบบที่ซับซ้อนและเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบรวมอาจทำให้ผู้ใช้ต้องคอยกังวล โดยมีรายงานคาดการณ์ว่าหากคุณประสบอุบัติเหตุร้ายแรง การซ่อมแซมรถ EV จะมีราคาสูงกว่าการซ่อมรถยนต์ที่ใช้น้ำมันถึง 30%

อย่างไรก็ตามตลาดรถ EV มีแนวโน้มที่จะน่าดึงดูดมากขึ้นจากนักลงทุนทั่วโลก แต่การแข่งขันกลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายในสงครามครั้งนี้ โดยในที่สุดผู้ผลิตรถยนต์ที่ก่อตั้งขึ้นก็เริ่มให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง

ในขณะเดียวกัน แบรนด์จีนที่มีความทะเยอทะยานอย่าง BYD และ MG กำลังสนใจผลิตและจำหน่ายรถโมเดลที่มีราคาสูง แต่สุดท้ายแล้วจะเหลือผู้เล่นที่สามารถทำได้ทั้งราคาที่เข้าถึงง่าย และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Credit : ArenaEV

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีแบรนด์หรือค่ายรถยนต์น้องใหม่ออกมาเปิดตัวโชว์ความล้ำสมัยของรถ EV มากมาย เช่น Lucid, Nio หรือ Rivian ไม่ว่าจะเป็นรถบินได้ เทคโนโลยีรถไร้คนขับต่างๆ ถึงแม้จะน่าตื่นเต้นกับเทคโนโลยีก็จริง แต่ในด้านราคาและการใช้งานจริงอาจทำให้แบรนด์เหล่านี้ต้องยอมแพ้ไปในการแข่งขันที่สูงมากในตลาดโลก 

Credit : ArenaEV

อย่างไรก็ตามการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันถือว่าตอบโจทย์ใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดค่าเชื้อเพลิง สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ที่บ้านในช่วง Off-Peak ซึ่งสะดวกและประหยัดกว่าการเติมน้ำมัน, เทคโนโลยีการขับขี่ที่สะดวกสบาย พร้อมไปด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์มากมาย

แต่สุดท้ายแล้วผู้ใช้งานรถหลายคนก็ยังคงมีข้อกังวลในด้านการซ่อมแซม ประกัน หรือศูนย์บริการต่างๆ ยังคงต้องถูกบ่มเพาะและพัฒนาอีกมาก เพื่อให้คนลดข้อสงสัยเกี่ยวกับรถ EV และเปลี่ยนจากรถสันดาปทั่วไปมาเป็นรถ EV ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากในอนาคต

ที่มา : ArenaEV

Source : Spring News