Zeekr 009 รถ MPV 6 ที่นั่ง ขุมพลังไฟฟ้า 100% เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยด้วยราคา 3.099 ล้านบาท ด้วยออปชั่นและสเปคที่น่าสนใจเราอยากชวนมาดูกันว่ารถรุ่นนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

ZEEKR 009 รถยนต์ไฟฟ้าจีนประเภท MPV 6 ที่นั่งเปิดตัวจำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 3,099,000 บาท พร้อมบุกตีตลาดในไทย ด้วยสเปคและออปชั่นที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคา ซึ่งรถรุ่นนี้จะหรูหราและมีอะไรโดดเด่นกว่าเจ้าตลาดเดิม ชวนมาดูไปพร้อมๆกัน

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

สเปค ZEEKR 009

ZEEKR 009 ขนาดตัวรถ ยาว 5,209 x กว้าง 2,024 x สูง 1,812 x ความยาวฐานล้อ 3,205 (มม.)

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Alphard  ยาว 5,010 x กว้าง 1,850 x สูง 1,950 ความยาวฐานล้อ 3,000 (มม.) ZEEKR 009 ถือว่าได้เปรียบทั้งด้านความยาว, ความกว้าง ยกเว้นในเรื่องความสูง

ZEEKR 009 ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD (Intelligent Four-wheel Drive System) สามารถปรับเป็น RWD – AWD ได้อัตโนมัติ 

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 450 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 612 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 693 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที, ระยะทางวิ่งสูงสุด 686 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

แบตเตอรี่ Lithium-ion (MCM & Graphite) ความจุ 116 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 310 kW ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (310 kW) จาก 10-80% ภายในเวลา 11.5 นาที

จุดเด่นของ ZEEKR 009 มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้า Double Wishbone ช่วงหลัง Multi-link และ ระบบรองรับเป็นแบบถุงลม Air Suspension พร้อมระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ปรับความแข็ง – นุ่ม อัตโนมัติ พร้อมปรับความสูงได้ 5 ระดับ

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

ในเรื่องความปลอดภัยมาพร้อมระบบจานเบรกแบบครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) เคลมระยะเบรกจาก 100 – 0 km/h ใน 36.9 เมตร

โครงสร้างตัวถังส่วนล่างแบบ One-Piece Construction ขึ้นรูปแบบ Die-casting, โครงสร้างตัวถังผลิตด้วยวัสดุทนแรงดึงสูง รองรับแรงกระแทก 128 กิโลนิวตัน (kN) หรือ 13,052 กิโลกรัม, โครงสร้างตัวถังด้านข้างแบบ Ten Grids ขนาด 133 มิลลิเมตร ป้องกันการกระแทกของแบตเตอรี่

การออกแบบเปลือกตัวถังภายนอก เพื่อลดคาสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Coefficient Drag) เหลือเพียง 0.27, ชิ้นส่วนและระบบลดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้มีความเงียบภายในห้องโดยสาร 64.5 dB ที่ความเร็ว 120 km/h

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

หลังคากระจก Panoramic Roof แบบ 2 ตอน, ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ฝั่ง, พร้อมระบบถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง

ภายในเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุ Nappa , เบาะที่นั่งปรับด้วยไฟฟ้า, เบาะแถวสองมาพร้อมโต๊ะพับอเนกประสงค์, ที่วางขา Ottoman, โหมดปรับนอนจังหวะเดียว Eame Lounge Chair Mode และเบาะแถวที่สามารถปรับและพับได้ 60:40 

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8155, หน้าจอชุดมาตรวัดแบบ LCD 10.25 นิ้ว, ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า HUD, หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touch Screen ขนาด 15.05 นิ้ว, หน้าจอเพดาน ขนาด 17 นิ้ว ปรับได้ 5 ระดับ พร้อมรีโมทคอนโทรล, ชุดเครื่องเสียง YAMAHA Surround Stereo Luxury พร้อมลำโพง 30 ตำแหน่ง

CREDIT : ZEEKR
CREDIT : ZEEKR

ราคา ZEEKR 009

ZEEKR 009 ราคาจำหน่าย 3,099,000 บาท มี 3 สีให้เลือก Crystal White, Electric Blue, Phantom Black 

ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร, รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง, บริการ Mobile Service, บริการ Call Center 24 ชั่วโมง

Source : Spring News

ในงาน IAA Transportation 2024 ทาง CATL หรือชื่อเต็มๆ Contemporary Amperex Technology Co., Limited ผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับโลก หรือจะเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ในตลาดแบตเตอรี่ก็ว่าได้ ได้เปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า “Tecrtrans” ที่มีอายุการใช้งานมากถึง 1.5 ล้านกิโลเมตร ใช้ได้ยาวนานสูงสุดถึง 15 ปี และทาง CATL ยังมีการรับประกันให้ 10 ปี ซึ่งถือว่าอาจจะเป็นการปฏิวัติวางการรถบรรทุกไฟฟ้าของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแบเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และมีความทนทานมาก ทำให้ผู้ผลิตรถบรรทุกน่าจะเริ่มนำไปใช้กันมากยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ Tectrans พลิกโฉมอุตสาหกรรมการขนส่ง

แบตเตอรี่ Tectrans รุ่นใหม่คาดกันว่าจะเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการขนส่งกันเลยทีเดียว แบตเตอรี่มีความหนาแน่นของพลังงานมากถึง 175 Wh/kg ชาร์จครั้งเดียวสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่าเดิม ในการเปิดตัวแบตเตอรี่ใหม่ครั้งนี้ มีการเปิดมาใน 2 เวอร์ชั่น นั่นก็คือ TECTRANS – T Superfast Charging Edition และ TECTRANS – T Long Life Edition โดยรุ่นชาร์จเร็วพิเศษ TECTRANS – T Superfast Charging Edition นั้นสามารถชาร์จได้ถึง 70% โดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานรถบรรทุกทำได้ดีขึ้น ไม่ต้องรอชาร์จนานๆ อีกต่อไป ส่วนอีกรุ่น TECTRANS – T Long Life Edition มีจุดเด่นในเรื่องของอายุการใช้งานที่ยาวนานมากถึง 15 ปี ซึ่งเน้นไปทีความทนทานเป็นพิเศษ เหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิชย์ที่ต้องการรถบรรทุกสำหรับการใช้งานหนัก เช่น การวิ่งขนส่งในระยะทางไกลๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น

แบตเตอรี่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ชาร์จเต็ม 100% จะสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 500 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่มีความเหมาะสมในภาคขนส่ง ทำให้รองรับการขนส่งในระยะทางไกลๆ ได้ ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น แบตเตอรี่ TECTRANS พร้อมใช้งานในประเทศโซนร้อนที่อุณหภูมิกว่า 45°C ทนทานต่ออากาศหนาวติดลบ -35°C ซึ่งมีการทดลองใช้งานในประเทศโซนร้อนอย่างการ์ตา , ดูไบ และในประเทศที่หนาวติดลบอย่าง นอร์เวร์ และสวีเดน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวแบตเตอรี่สามารถกันน้ำได้ในระดับ IP69 ที่สามารถต้านแรงดันฝุ่นแลแรงดันน้ำในระดับสูงได้ สามารถทนต่อการจมอยู่ในน้ำได้นานมากถึง 72 ชั่วโมง

สำหรับแบตเตอรี่รุ่นใหม่มี จะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ใน 3 กลุ่มด้วยกันคือ

  • Tectrans – T สำหรับรถบรรทุกไฟฟ้าสำหรับงานหนัก
  • Tectrans – L (L-Series) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ทั่วไป
  • Tectrans – B (Bus Edition) สำหรับรถบัสไฟฟ้า

จุดเด่นของ แบตเตอรี่ Tectrans

  • อายุการใช้งานยาวนาน หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของแบตเตอรี่ Tectrans คืออายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 15 ปี และสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 1.5 ล้านกิโลเมตร ทำให้ลดต้นทุนในการเปลี่ยนแบตเตอรี่และเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน
  • ความหนาแน่นของพลังงานสูง แบตเตอรี่ Tectrans มีความหนาแน่นของพลังงานสูง ทำให้สามารถเก็บพลังงานได้มากขึ้นในขนาดที่เท่ากัน ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น
  • เทคโนโลยีที่ทันสมัย แบตเตอรี่ Tectrans ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้มีความปลอดภัยสูง และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
  • การรับประกัน แบตเตอรี่ Tectrans มาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นการการันตีถึงคุณภาพและความทนทาน

ล่าสุดทาง CATL ได้มีความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ถึง 13 รายด้วยกันอาทิเช่น Yutong Bus, Golden Dragon และ Dongfeng Moto เพื่อนำเทคโนโลยีและแบตเตอรี่รุ่นใหม่นี้ไปใช้กับรถเมล์ไฟฟ้า 80 รุ่น และยังจะมีการนำไปใช้กับรถบรรทุกไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการเริ่มผลิตในแบบจำนวนมากเร็วๆ นี้

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของแบตเตอรี่รุ่นใหม่ล่าสุด Tectrans ที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการขนส่งให้กับทั่วโลกอย่างแน่นอน และเราจะเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบรรทุกขนาดเล็ก รวมถึงรถสาธารณะต่างๆ ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนในเรื่องของการขนส่งแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซค์ในโลกใบนี้อีกด้วย

ภาพ : Freepik, CATL

AVATR 11 เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาเริ่มต้น 2.099 ล้านบาท ดีไซน์ล้ำสมัย เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CATL และระบบอัจฉริยะจาก Huawei ซึ่งเราอยากชวนมาดูกันว่ารถยนต์ไฟฟ้าจีนพรีเมียมในรูปแบบ SUV Coupe รุ่นนี้จะน่าสนใจแค่ไหน

AVATR 11 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจีนในสไตล์ SUV Coupe ที่เปิดตัวจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยราคา 2.099 – 2.299 ล้านบาท ซึ่งรถรุ่นนี้ออกแบบและดีไซน์มาแบบ Premium ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์สะกดทุกสายตาที่คว้ารางวัล Red Dot Design Award สมรรถนะที่น่าสนใจด้วยตัวเลขระยะทางที่มากถึง 680 กม./ชาร์จ ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง ชวนมาดูทั้งสเปค ออปชั่น และราคาของ AVATR 11 ไปพร้อมๆกัน

AVATR 11 เปิดตัวในไทย ราคาเริ่มต้น 2.099 ล้านบาท สเปควิ่งไกลสุด 680 กม./ชาร์จ

สเปค AVATR 11

AVATR 11 มีขนาดตัวรถ ยาว 4,880 x กว้าง 1,970 x สูง 1,601 x ความยาวฐานล้อ 2,975 (มม.)

CREDIT : AVATR
CREDIT : AVATR

AVATR 11 รุ่น Standard Range ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ หรือ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 90.38 kWh รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 11 kW รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 240 kW พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าสู่ภายนอกตัวรถ V2L (Vehicle to Load)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที, ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะทางที่วิ่งได้ 575 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (240 kW) จาก 30 – 80% ใช้เวลา 15 นาที

CREDIT : AVATR
CREDIT : AVATR

AVATR 11 รุ่น Long Range ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ หรือ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 116.79 kWh รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 11 kW รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 240 kW พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าสู่ภายนอกตัวรถ V2L (Vehicle to Load)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที, ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะทางที่วิ่งได้ 680 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (240 kW) จาก 30 – 80% ใช้เวลา 25 นาที

AVATR 11 เปิดตัวในไทย ราคาเริ่มต้น 2.099 ล้านบาท สเปควิ่งไกลสุด 680 กม./ชาร์จ

AVATR 11 รุ่น Standard Range มีให้เลือก 3 สี สีขาว Glossy White ภายในสีดำ, สีเทา Glossy Grey ภายในสีดำ, สีดำ Glossy Black ภายในสีดำ

AVATR 11 รุ่น Long Range มีให้เลือก 4 สี สีเขียว Aqua Green, สีขาวด้าน Matte White, สีเทาด้าน Matte Grey, สีดำด้าน Matte Black

AVATR 11 มีโหมดการขับขี่ให้เลือกมากถึง 4 โหมด คือ Eco, Comfort, Sport และ Customize และยังมาพร้อมหน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว, แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ระบบปฏิบัติการ Huawei HarmonyOS

CREDIT : AVATR
CREDIT : AVATR

ในส่วนของออปชั่นต่างๆที่อำนวยความสะดวกสบายของ AVATR 11 จะมีทั้ง ชุดเครื่องเสียง พร้อมลำโพง Meridian 25 ตำแหน่ง, ไฟสร้างบรรยากาศภายใน 256 สี Emotional Vertex พร้อมระบบเปลี่ยนสีเป็นจังหวะ, เบาะนั่งแบบไร้แรงโน้มถ่วงคู่ เลือกใช้วัสดุหนังกึ่งอนิลีนฟูลเกรนจากอเมริกาเหนือ, หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาพร้อมระบบป้องกันรังสียูวีและความร้อน

CREDIT : AVATR
CREDIT : AVATR

ความปลอดภัยของ AVATR 11 มาพร้อมระบบ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ระดับ 2+ และระบบอัจฉริยะจาก Huawei, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตำแหน่ง, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตำแหน่ง, กล้อง HD 5 ตำแหน่ง, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา และเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่นๆอีกมากมาย

AVATR 11 เปิดตัวในไทย ราคาเริ่มต้น 2.099 ล้านบาท สเปควิ่งไกลสุด 680 กม./ชาร์จ

ราคา AVATR 11

AVATR 11 รุ่น Standard Range ราคาจำหน่าย 2,099,000 บาท

AVATR 11 รุ่น Long Range ราคาจำหน่าย 2,299,000 บาท

สำหรับลูกค้า 200 คนแรกที่จอง AVATR 11 จะได้รับส่วนลด 100,000 บาท รุ่น Standard Range ลดราคาเหลือ 1,999,000 บาท และรุ่น Long Range ลดราคาเหลือ 2,199,000 บาท 

ที่มา : AVATR
Source : Spring News

BYD เปิดตัว E-VALI รถตู้ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ เจาะตลาดยุโรปด้วยดีไซน์ล้ำสมัย พื้นที่ขนส่งกว้างขวาง และเทคโนโลยีเต็มคัน วิ่งได้ไกลสูงสุด 250 กม. ต่อการชาร์จ ตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

BYD E-VALI รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน IAA Transportation ปี 2024 ซึ่งรถรุ่นนี้จะเน้นตอบโจทย์การขนส่ง, โลจิสติกส์ รวมถึงงานอื่นๆในเชิงพาณิชย์ และล่าสุดได้มีการประกาศสเปคออกมาคร่าวๆแล้ว โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้กำลังจะบุกตีตลาดยุโรปอย่างเป็นทางการ

CREDIT : Carnewschina
CREDIT : Carnewschina

BYD E-VALI มีพื้นที่เก็บสินค้าขนาดใหญ่เป็นพิเศษ สูงสุดถึง 17.9 ตารางเมตรในรุ่น 4.25 ตัน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 1450 กก. สิ่งนี้ทำให้ E-VALI เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงทั้งสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมาก

CREDIT : Carnewschina
CREDIT : Carnewschina

BYD ได้รวมองค์ประกอบการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ BYD E-VALI สำหรับการดำเนินการจัดส่ง ซึ่งรวมถึงประตูบานเลื่อนด้านข้างเพื่อการขนถ่ายสินค้าที่ง่ายดาย ประตูท้ายแบบบานพับที่เปิดกว้าง และเบาะนั่งแบบพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระให้สูงสุด

CREDIT : Carnewschina
CREDIT : Carnewschina

นอกจากนี้ คนขับสามารถยืนตัวตรงเมื่อเข้าไปในรถตู้ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากระหว่างการขนถ่ายสินค้า ประตู Bulkhead ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายโดยแยกห้องโดยสารของคนขับและผู้โดยสารออกจากพื้นที่เก็บสัมภาระ

CREDIT : Carnewschina
CREDIT : Carnewschina

ห้องโดยสารของ BYD E-VALI ได้ผสมผสานความสวยงามที่ทันสมัยเข้ากับการใช้งานจริง ความรู้สึกไฮเทคได้รับการปรับปรุงด้วยแผงหน้าปัดที่ทันสมัยและหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับข้อมูลข่าวสารและความบันเทิง และคุณสมบัติการเชื่อมต่อ 4G อัจฉริยะของ BYD

ผู้ขับขี่ได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติต่างๆ เช่น Apple CarPlay, Android Auto, การอัปเดตแบบ over-the-air (OTA) และการรู้จำเสียง โหมดแบ่งหน้าจอของหน้าจอสัมผัสช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินกับข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงในขณะที่คนขับจดจ่ออยู่กับถนน

เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น BYD E-VALI ยังมีเบาะนั่งที่ปรับด้วยระบบไฟฟ้าและออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น โต๊ะพับได้ ตู้เย็น/กล่องเก็บความเย็น ที่วางแก้ว ช่องเก็บของ และพอร์ต USB หลายพอร์ต

BYD E-VALI ติดตั้งเทคโนโลยี Blade Battery ล่าสุดของ BYD ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความทนทาน และประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ขนาด 80.64 kWh ที่ปราศจากโคบอลต์นี้ ใช้แคโทดลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ซึ่งอ้างว่ามีระดับความปลอดภัยสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิม E-VALI ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ครอบคลุมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่

CREDIT : Carnewschina
CREDIT : Carnewschina

BYD E-VALI มาพร้อมระบบส่งกำลังไฟฟ้า 6-in-1 ที่รวมส่วนประกอบสำคัญเข้าไว้ในโมดูลเดียว ช่วยให้การบำรุงรักษาง่ายขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ และลดความสูงของพื้นที่เก็บสัมภาระ รถตู้ยังรวมปั๊มความร้อนประหยัดพลังงานขั้นสูงสำหรับการจัดการความร้อนที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอในสภาพอากาศต่างๆ

BYD E-VALI จะสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 220-250 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน WLTP) และสามารถชาร์จเร็วได้จาก 10% ถึง 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที

BYD E-VALI เป็นรถตู้ไฟฟ้าที่น่าสนใจ รองรับการบรรทุกสินค้าได้หลากหลายด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่และน้ำหนักบรรทุกสูง จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการรถขนส่งที่ใช้งานได้จริง ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ที่มา : BYD
Source : Spring News

BYD Shark เปิดตัวกระบะ PHEV รุ่นใหม่ในเม็กซิโก ด้วยราคา 1.9 ล้านบาท ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกบีวายดีเปิดตัวรถในต่างประเทศก่อนประเทศจีน โดย BYD Shark สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 850 กม. เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเต็ม

BYD Shark รถกระบะ PHEV ไซส์ยักษ์ เปิดตัวแล้วในเม็กซิโกด้วยราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท ซึ่งสำหรับใครที่ชื่นชอบรถกระบะคันใหญ่ ก็คงต้องสนใจรถรุ่นนี้อย่างแน่นอน โดยนอกจากความสวยของดีไซน์แล้ว เราอยากชวนมาดูกันว่ารถกระบะรุ่นนี้น่าสนใจแค่ไหนกัน

BYD Shark กระบะปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวราคา 1.9 ล้านบาท วิ่งไกลสุด 840 กม.

ซึ่งหากใครที่กำลังสงสัยว่ารถกระบะ BYD Shark จะสามารถขนของหนักหรือใช้ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่ ต้องบอกเลยว่า BYD Shark สามารถลากจูงได้สูงสุดถึง 2,500 กก. รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ 845 กก. ปริมาณการบรรทุกสูงสุดที่ 1,450 ลิตร

BYD Shark กระบะปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวราคา 1.9 ล้านบาท วิ่งไกลสุด 840 กม.

สเปค BYD Shark 

BYD Shark มาพร้อมมิติตัวถัง ความยาว 5,457 มม. กว้าง 1,925 มม. สูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,260 มม. สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DMO ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม PHEV ซึ่งรองรับการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ 

BYD Shark กระบะปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวราคา 1.9 ล้านบาท วิ่งไกลสุด 840 กม.

BYD Shark ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ระบบส่งกำลังไฟฟ้ารวม กำลังสูงสุด 320 kW (429 แรงม้า) แรงบิดรวมสูงสุด 650 Nm อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.7 วินาที 

BYD Shark กระบะปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวราคา 1.9 ล้านบาท วิ่งไกลสุด 840 กม.

BYD Shark มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 29.59 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้า 100 กม. (NEDC) ระยะทางรวมสูงสุด 840 กม. (น้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเต็ม) โดยอัตราการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงอยู่ที่ 7.5 ลิตร/100 กม.

ภายในของ BYD Shark จะคล้ายๆกับรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD รุ่นอื่นๆ ซึ่งมาพร้อมหน้าจอกลางปรับหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว, หน้าจอสำหรับผู้ขับขี่ 10.25 นิ้ว แต่ดีไซน์ภายในยังคงมีปุ่มควบคุมต่างๆ ซึ่งช่วยให้ใช้งานง่ายและสะดวกกว่า

BYD Shark กระบะปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวราคา 1.9 ล้านบาท วิ่งไกลสุด 840 กม.

ราคา BYD Shark เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในเม็กซิโก ซึ่งเริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ 1.9 ล้านบาท โดยในราคานี้จะมาเป็นคู่แข่งกับ Ford Ranger PHEV และ Toyota Hilux นั่นเอง

ที่มา : carnewschina
Source : Spring News