News & Update

ซีเมนส์ ชู ‘E-house’ สถานีไฟฟ้ายั่งยืน รองรับ Data Center โตก้าวกระโดด

เวทีสัมมนา “Siemens Data Center Conference 2025” ภายใต้แนวคิด “Redefining Data Center Infrastructure – นิยามใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซนเตอร์” จัดโดย Siemens (ซีเมนส์) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และ กรุงเทพธุรกิจ สื่อเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศไทย

เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ กับเทรนด์การใช้ดาต้าเซนเตอร์ในอนาคต โดยผู้ร่วมรับฟังสัมมนายังได้รับชมการสาธิตแนวทางออกแบบ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซนเตอร์ให้ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด อาทิ Liquid Cooling สำหรับดาต้าเซนเตอร์, Skid Solutions เร่งการติดตั้งแบบยั่งยืน, ระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีแม่นยำสูงด้วยเซนเซอร์ตรวจจับควันแบบสุ่มอากาศชนิด Dual Wavelength, การออกแบบที่ใช้โมดูลาร์ : ระบบจ่ายพลังงานที่สามารถปรับขยายได้ เป็นต้น

ระบบไฟฟ้าคือหัวใจสำคัญ

เกศสุดา เพิ่มผลไพบูลย์ Technical Expert – Power Distribution System, Electrification & Automation จาก Siemens Thailand หนึ่งในวิทยากรบนเวทีสัมมนา “Siemens Data Center Conference 2025” กล่าวในหัวข้อ Accelerating Datacenter Deployment and Sustainability Projects with Skid Solutions ว่า ในยุคที่ Data Center และภาคอุตสาหกรรมขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบไฟฟ้าคือ หัวใจสำคัญที่ไม่อาจขาดได้

ซีเมนส์ตระหนักถึงความท้าทายนี้ และได้นำเสนอโซลูชัน Power Solution ที่ปฏิวัติวงการอย่าง ‘E-house’ (อี-เฮาส์) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานอย่างรวดเร็ว ประหยัด และยืดหยุ่น

E-house คืออะไร

E-house คือ สถานีไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากสถานีไฟฟ้าแบบเดิมซึ่งมักเป็นอาคารคอนกรีตขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาในลักษณะของตู้คอนเทนเนอร์หรือโครงสร้างสำเร็จรูป โดยอุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบต่างๆ ถูกประกอบ และติดตั้งเสร็จสมบูรณ์มาจากโรงงาน ผนัง และโครงสร้างที่เป็นเหล็กทำให้กระบวนการประกอบรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก

ภายใน E-house ประกอบด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นอย่างครบครัน อาทิ UPS (Uninterruptible Power Supply), หม้อแปลงไฟฟ้า (Power Transformer / Distribution Transformer), สวิตช์เกียร์แรงดันปานกลาง (Medium Voltage Switch Gear), Bus Duck หรือ Bus Bar Trunking System, และ สวิตช์เกียร์แรงดันต่ำ (Low Voltage Switch Gear) นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับบุคคลและเทคโนโลยีอาคาร (Building Technology / Building Control) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

3 คุณสมบัติเด่นของ E-house

ซีเมนส์ชู 3 คุณสมบัติหลักที่ทำให้ E-house เหนือกว่าสถานีไฟฟ้าแบบดั้งเดิม ได้แก่

1. ความรวดเร็วในการส่งมอบ และติดตั้ง : E-house สามารถผลิต และทดสอบเสร็จสมบูรณ์จากโรงงาน ทำให้สามารถนำมาวางบนฐานรากที่สร้างเสร็จแล้ว และเชื่อมต่อสายไฟ (plug and play) ได้ทันที ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการส่งมอบ และติดตั้งงานได้เร็วขึ้นถึง 50% ในขณะที่การสร้างสถานีไฟฟ้าแบบเดิมต้องใช้คนทำงานหน้างานจำนวนมาก รวมถึงเครน และการก่อสร้างที่ใช้เวลานาน

2. ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน : E-house มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนดีไซน์หรือเทคโนโลยีได้สูงถึง 100% ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตของระบบไฟฟ้า หรือการอัปเกรดเทคโนโลยีในอนาคต นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับสถานีไฟฟ้าแบบคอนกรีต

3. ลดค่าใช้จ่ายโดยรวม : โซลูชันนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายรวมของโครงการลงได้ถึง 27% ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการใช้พื้นที่ (สามารถใช้พื้นที่ที่ไม่เกิดประโยชน์มาสร้างได้), ค่าบริหารจัดการโครงการ, และค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรบุคคล

“นอกจากนี้ E-house ยังเป็นโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน (Sustainability) โครงสร้างเหล็กทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเดินทางของเจ้าหน้าที่ไปยังไซต์งาน เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งหมดถูกประกอบ และทดสอบจากโรงงานเรียบร้อยแล้ว”

นวัตกรรมจัดการพลังงานแบบดิจิทัล

เกศสุดา กล่าวด้วยว่า ซีเมนส์ใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทางในการออกแบบและบริหารจัดการ E-house เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คือ

  • SIMARIS : ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • E-house layout app : แอปพลิเคชันสำหรับการออกแบบ ‘e-house’ ในรูปแบบ 3D ซึ่งสามารถสร้างเอกสาร 2D หรือเอกสารสำหรับงานประมูลได้
  • E-house app : ใช้สำหรับคำนวณปริมาณเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับขนาดของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน E-house

เพื่อการบริหารจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาด E-house ยังรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Electrical Power Management System (EPMS) และ IoT Application เพื่อการตรวจสอบ และควบคุมระบบไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ ซีเมนส์ยังให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) โดยเฉพาะในส่วนของ Operational Technology (OT) เพื่อปกป้องระบบจากการโจมตีทางไซเบอร์

แนวคิด Digital Twin (ดิจิทัล ทวิน) ยังช่วยให้สามารถทดลอง และวางแผนการตั้งค่าหรือการอัปเกรดระบบได้เสมือนจริง ลดเวลา และทรัพยากรที่ใช้ในการทดสอบจริง การนำ IoT Application มาใช้ยังตอบโจทย์ด้านธุรกิจ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (เช่น ลด Carbon Footprint) และที่สำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยของบุคลากร โดยสามารถมอนิเตอร์สภาพอุปกรณ์เพื่อลดความเสี่ยงจากการระเบิดหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

ประเภทของ E-house

E-house มีหลากหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • S-type E-house : โครงสร้างแบบเปิดที่ไม่มีผนัง เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในอาคารขนาดใหญ่ เช่น Data Center
  • E-house substation : สถานีไฟฟ้าที่มีผนัง และโครงสร้างป้องกันแสงแดดและฝน เหมาะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคารหรือสถานีไฟฟ้าย่อย
  • Mobile E-house : ‘e-house’ ที่ติดตั้งอยู่บนล้อ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับสถานีไฟฟ้าชั่วคราว

E-house ขยายไปทั่วโลก

เกศสุดา บอกว่า ซีเมนส์มีประสบการณ์ในการส่งมอบโซลูชัน E-house ให้กับลูกค้าทั่วโลก ตัวอย่างโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการในอุตสาหกรรมเคมีที่มี 7 ‘E-house’ (รวม 90 transport modules) ซึ่งถูกส่งมอบอย่างต่อเนื่องทุกๆ 2 เดือน หรือโครงการเหมืองแร่ในตุรกีที่มี 25 ‘E-house’ (26 transport units) ที่ต้องส่งมอบภายใน 2 ปี ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

ในประเทศไทยเอง ซีเมนส์ก็ประสบความสำเร็จในการส่งมอบโซลูชัน E-house ไปแล้วกว่า 50 transport units ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชมประสบการณ์เสมือนจริงของ E-house แต่ละประเภทได้ผ่าน VR Application หรือบนเว็บไซต์ของซีเมนส์ เพื่อทำความเข้าใจถึงนวัตกรรม และประโยชน์ที่ได้รับอย่างแท้จริง ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมเหล่านี้ตอกย้ำบทบาทของซีเมนส์ในการเป็นผู้นำด้าน Power Solution ที่ตอบโจทย์ความท้าทายด้านพลังงานในโลกยุคดิจิทัลได้อย่างครบวงจร และยั่งยืน

Source : กรุงเทพธุรกิจ

นักวิทย์สร้างขี้วาฬปลอมปล่อยสู่ทะเล หวังช่วยเก็บคาร์บอนและคืนสมดุล

นักวิทยาศาสตร์รู้มานานแล้วว่าอุจจาระของวาฬอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อระบบนิเวศ เช่น ธาตุเหล็ก, ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ที่สำคัญ เมื่อปล่อยให้มันสัมผัสกับแสงอาทิตย์ ของเสียวาฬจะกระตุ้นให้เกิดแพลงตอนพืชอาหารสำคัญของสัตว์ทะเลหลายชนิดลอยไกลหลายกิโลบนผิวน้ำ แต่อุตสาหกรรมการล่าวาฬในศตวรรษที่ 20…

รมว.พลังงาน เผยแผนปี 2567 เร่งปรับโครงสร้างน้ำมัน หลังปี 2566 ใช้เงิน 1 แสนล้านบาทแก้วิกฤติราคาพลังงาน

พลังงาน ประกาศนโยบายปี 2567 เร่งปรับโครงสร้างน้ำมันทุกส่วน สร้างความเป็นธรรมด้านราคา รัฐมนตรีพลังงานระบุกำลังพิจารณาทั้งมาตรการภาษีน้ำมันกลุ่มเบนซินที่จะสิ้นสุด 31 ม.ค. 2567, มาตรการยกร่างกฎหมายราคาน้ำมันเพื่อเกษตรกร…

ทำอย่างไรให้”ไฮโดรเจน”คุ้มค่ามากขึ้น

กระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าไฮโดรเจนสามารถมีบทบาทในการลดคาร์บอน 25% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก แต่ต้องมีการทำงานเพิ่มเติมเพื่อลดต้นทุน สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปนี้เพื่อให้แน่ใจว่าได้พัฒนาห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของไฮโดรเจนเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่บนเส้นทางสู่การแข่งขันด้านต้นทุนกับดีเซล ความพยายามที่จะทำให้การผลิตไฮโดรเจนถูกลง ข้อมูลจาก World economic forum ระบุว่า มีการมุ่งมั่นในการลดต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนเพื่อให้การใช้ไฮโดรเจนดังกล่าวเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา…