News & Update

เปิดขั้นตอน ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

ปัจจุบันโลกผลิตขยะมูลฝอยจากชุมชน (Municipal Solid Waste) สูงถึงประมาณ 2.01 พันล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง หากไม่มีการปรับเปลี่ยนเชิงนโยบายหรือพฤติกรรมการบริโภคอย่างจริงจัง ปริมาณขยะทั่วโลกอาจพุ่งทะยานขึ้นเป็น 3.4 ถึง 3.88 พันล้านตันต่อปี ภายในปี 2050โดยส่งผลกระทบในวงกว้างต่อระบบนิเวศ สุขภาวะของประชากร และความยั่งยืนของโลกใบนี้ (ข้อมูลจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP)

ด้วยความตระหนักในประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า “กลุ่มเซ็นทรัล” จึงได้ริเริ่ม Central World เป็นห้างต้นแบบของ “Zero Waste” แห่งแรก ผ่านโมเดลการจัดการขยะอย่างครบวงจร ที่เน้นการ “ลด–แยก–จัดการ” อย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมจับมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยนำร่องที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในเฟสแรก ภายใต้แคมเปญ “Love the Earth : Zero Waste รักโลกต้องเริ่มเลย”

เปิดขั้นตอน \'เซ็นทรัลเวิลด์\' ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

3 ขั้นตอน ลด-แยก-จัดการ

1. ลดขยะตั้งแต่ต้นทาง

  • กลุ่มเซ็นทรัลเน้นลดการใช้วัสดุที่ไม่จำเป็น และส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Say No to Plastic Bag ที่ส่งเสริมการงดใช้ถุงพลาสติกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 จนปี 2567 มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 3 ล้านคน ปฏิเสธถุงรวมแล้ว 12 ล้านครั้ง
  • CRG Say No to Plastic เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ 100% ลดขยะพลาสติกได้ถึง 16.5 ล้านชิ้น
  • จัดการอาหารส่วนเกิน ร่วมกับมูลนิธิ SOS และ VV Share ส่งมอบอาหารให้ชุมชนกว่า 807 แห่ง ลดขยะอาหารได้ 568 ตัน ลดการปล่อยคาร์บอนเทียบเท่า 1,438 ตัน
  • ไทวัสดุ ปรับระบบขนส่ง ลดการใช้ฟิล์มพลาสติก 10.54 ตัน/ปี ประหยัดค่าขนส่งได้ 20.4 ล้านบาทต่อปี

2. แยกขยะที่ต้นทาง

  • การแยกขยะตั้งแต่จุดกำเนิดเป็นอีกกุญแจสำคัญที่เซ็นทรัลเวิลด์นำมาใช้ ตู้ Better Bottle สำหรับบริจาคขวด PET เพื่อนำไปผลิต PPE, เสื้อกันหนาว และของใช้จำเป็น
  • โครงการ “ปลา P.O.P.” ในโรงแรมในเครือเซ็นทารา แยกขยะพลาสติกรวม 743.62 กก. นำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล
  • กิจกรรม “ทิ้งดี โร้ดโชว์” กระตุ้นการแยกขยะในสำนักงานและอาคารเช่า มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 2,800 ราย แยกขยะได้เกือบ 40 ตัน
  • Recycle Drop Point แบบ Drive-thru ที่ B1 เซ็นทรัลเวิลด์ ช่วยแยกขยะจากบ้านและร้านค้า คัดแยกรีไซเคิลรวม 801 ตัน ในปี 2567 คิดเป็นลดคาร์บอนได้ 3,471 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ กว่า 365,000 ต้น
เปิดขั้นตอน \'เซ็นทรัลเวิลด์\' ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

3. จัดการขยะอย่างถูกวิธี

  • เซ็นทรัลเวิลด์ยังยกระดับการจัดเก็บขยะให้ถูกสุขลักษณะและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ห้องพักขยะที่ปรับปรุงใหม่เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการคัดแยกขยะ
  • Recycle Station ที่ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพ Recycle Day เปิดแล้ว 10 สาขาทั่วประเทศ
  • ขยะกำพร้าสัญจร (RDF) ส่งขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงคุณภาพ โดยร่วมมือกับ N15 Technology
  • ก๊าซชีวภาพจากเศษอาหาร ในโรงแรมเครือเซ็นทารา ผลิตพลังงานสะอาดใช้ในครัว และลดคาร์บอนกว่า 3,000 กิโลกรัม/ปี
เปิดขั้นตอน \'เซ็นทรัลเวิลด์\' ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

ศูนย์คัดแยกขยะมาตรฐานสากล

“พิชัย จิราธิวัฒน์” กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า โมเดล Zero Waste แบบครบวงจร เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่มีประสิทธิภาพในการ ลด – แยก – จัดการขยะ อย่างเป็นระบบ พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า

“การแยกขยะอย่างถูกวิธีเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย Zero Waste to Landfill”

ในระยะแรกของโครงการ มีร้านค้าเข้าร่วมแล้วกว่า 200 ร้านค้า ครอบคลุมหลากหลายหมวด ทั้งแฟชั่น อาหาร และเครื่องดื่ม โดยร้านค้าที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับตราสัญลักษณ์ ‘Love the Earth: Zero Waste’ เพื่อยกย่องความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทเดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด รวมถึงพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งมีแผนขยายโมเดลนี้ไปยังศูนย์การค้าทั่วประเทศในอนาคต

เปิดขั้นตอน \'เซ็นทรัลเวิลด์\' ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

เป้าหมายลดฝังกลบเหลือ 30% ภายในปี 2573

จากผลการดำเนินงานในปี 2024 กลุ่มเซ็นทรัลสามารถลดขยะฝังกลบได้ถึง 43,600 ตัน และส่งต่อแนวคิด Zero Waste สู่ 190 ชุมชนทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” โดยมีเป้าหมายลดขยะสู่หลุมฝังกลบเหลือไม่เกิน 30% ภายในปี 2573 และเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2593

“เพราะความยั่งยืนไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง เซ็นทรัลจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ร้านค้า พนักงาน หรือพันธมิตร มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวงจร Zero Waste ที่ทุกคนมีบทบาทร่วมกันในการสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น” พิชัยกล่าว

เปิดขั้นตอน \'เซ็นทรัลเวิลด์\' ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

ระบบหล่อหลอมพฤติกรรมมนุษย์

ในการเปิดตัวแคมเปญ “Love the Earth : Zero Waste รักโลกต้องเริ่มเลย” ของกลุ่มเซ็นทรัล “มาร์ลีน นิลส์สัน” รองผู้อำนวยการระดับภูมิภาค รักษาการแทน และผู้แทนประจำประเทศไทยของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ได้ร่วมเวที และเน้นย้ำถึงความสำคัญของแนวทาง “Zero Waste แบบครบวงจร” ที่เชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

“นิลส์สัน” ได้เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงภารกิจของ UNEP คือ การแก้ไขวิกฤตการณ์ 3 ประการ ได้แก่ วิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, วิกฤตการณ์การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและธรรมชาติ, และวิกฤตการณ์ขยะสารเคมีและมลพิษ

“ทางเลือกในชีวิตประจำวันของเรานั้นถูกกำหนดโดยระบบรอบตัวเรา และความสะดวกสบายสามารถนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่ยั่งยืนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมส่วนบุคคลเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการออกแบบเชิงระบบที่หล่อหลอมทางเลือกของเรา”

ก๊าซมีเทนจากขยะ ต้นเหตุภาวะโลกร้อน

“นิลส์สัน” กล่าวด้วยว่า ขยะอาหาร ขยะพลาสติก และขยะมูลฝอยชุมชนที่จัดการไม่ดี เป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อวิกฤตการณ์สีเขียวทั้งหมดนี้ ตัวอย่างเช่น การปล่อยก๊าซมีเทนจากหลุมฝังกลบขยะเป็นเชื้อเพลิงให้ภาวะโลกร้อน มลพิษจากพลาสติกทำให้แม่น้ำและมหาสมุทรอุดตัน และเข้าสู่ปลาที่เราบริโภค การบริโภคที่ไม่ยั่งยืนทำให้ทรัพยากรมีจำกัดและเกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศ นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นประเด็นทางเศรษฐกิจ สุขภาพ และความเท่าเทียมอีกด้วย”

“เราไม่ได้ปราศจากแนวทางแก้ไขปัญหา อันที่จริง หลายแนวทางได้ถูกนำไปใช้แล้ว ตั้งแต่การออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้นน้ำ (upstream redesign) ไปจนถึงรูปแบบธุรกิจหมุนเวียน (circular business models) จากมาตรการจูงใจทางนโยบายไปจนถึงการมีส่วนร่วมของสาธารณะ”

Zero Waste ไม่ใช่ความฝัน

“Zero Waste ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นทิศทาง และเมื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง แนวทาง Zero Waste ไม่เพียงแต่ลดมลพิษเท่านั้น แต่ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปกป้องระบบนิเวศ สร้างงานสีเขียว และสร้างชุมชนที่มีสุขภาพดีและยืดหยุ่นมากขึ้น” นิลส์สันกล่าว

UNEP ยังได้แสดงความชื่นชมต่อบทบาทความเป็นผู้นำของกลุ่มเซ็นทรัลในแคมเปญนี้ โดยระบุว่า กลุ่มเซ็นทรัลกำลังแสดงให้เห็นว่าความเป็นผู้นำของภาคเอกชนจะเป็นอย่างไร และยังได้เรียกร้องให้ภาคเอกชนและธุรกิจดำเนินการ 3 สิ่งสำคัญ ได้แก่

  • ออกแบบระบบที่ปราศจากขยะ: ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง ทุกขั้นตอนมีความสำคัญ
  • สนับสนุนนโยบายที่ชาญฉลาด: กฎระเบียบ ซึ่งไม่ใช่แค่การดำเนินการโดยสมัครใจเท่านั้น แต่กฎระเบียบจะสร้างความชัดเจนและขนาดที่เราต้องการ
  • สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภค: ผู้บริโภคต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา และพวกเขาจะสนับสนุนผู้ที่เชื่อมั่น
เปิดขั้นตอน \'เซ็นทรัลเวิลด์\' ปฏิวัติห้าง สู่ระบบ Zero Waste ลด-แยก-จัดการขยะ

Source : กรุงเทพธุรกิจ

Tags:

Toyota จับมือ Idemitsu ผลิตแบตเตอรี่ Solid-State วิ่งไกลสุด 1,207 กม./ชาร์จ

Toyota ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งล่าสุดได้มีการอัปเดตเกี่ยวกับการผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตท (Solid-State Battery) โตโยต้าได้มีการวางแผนว่าจะผลิตเร็วสุดภายในปี 2026 นี้ ชวนมาดูกันว่าน่าสนใจแค่ไหน Toyota ประกาศเตรียมผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตท (Solid-State…

ปตท.สผ. เปิด“ลานแสงอรุณ”​ เริ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตปิโตรเลียม

ปตท.สผ. เปิดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “ลานแสงอรุณ” เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตปิโตรเลียมในโครงการเอส 1 นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในการผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 13,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี อีกหนึ่งความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์…

สนง. กกพ. เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาร่างโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่หลังรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว ชี้เริ่มใช้ทันภายในปี 2565

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมเสนอ บอร์ด พิจารณาร่างโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ปี 2565-2568 เร็วๆ นี้ หลังผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนแล้ว คาดประกาศใช้ได้ภายในปี 2565 ระบุเนื่องจากเป็นการปรับโครงสร้างในช่วงสถานการณ์พลังงานไม่ปกติ ดังนั้นจะไม่ปรับค่า Ft เป็นศูนย์เพื่อไปรวมไว้กับค่าไฟฟ้าฐาน โดยยังคงใช้อัตราค่า Ft ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วยต่อไปก่อน