ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าใครจะซื้อรถใหม่ตอนนี้ ต้องมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 1 ในตัวเลือกอย่างแน่นอน มีรถยนต์ไฟฟ้าเปิดจำหน่ายในบ้านเรามากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เดิมๆ ที่จำหน่ายรถน้ำมันมาก่อน และแบรนด์น้องใหม่ ที่ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ก็เข้ามาเปิดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรามากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ และล่าสุดก็ยังมีการปรับราคาลงเพื่อแข่งขันกันอีก ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะกับการซื้อหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้เป็นอย่างมาก
และในบทความนี้ ทางทีมงาน ก็ขอรวบรวมรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มาให้ทุกท่านไว้เป็นข้อมูลในการเลือกซื้อ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเป็นรุ่นยอดนิยมในบ้านเรา ช่วงต้นปี 2024 นี้ ไปดูกันเลยครับว่ามีรุ่นอะไรบ้าง
1.BYD DOLPHIN ราคา 699,999 – 859,999 บาท

มาเริ่มกันที่ BYD DOLPHIN กันก่อน หลายคนก็เรียกว่าน้องโลมา ด้วยการออกแบบให้มีดีไซน์เหมือนโลมา มีความน่ารัก พร้อมสีสันที่มีให้เลือกมากมาย ตัวรถมีขนาดที่เหมาะกับการใช้เป็นซิตี้คาร์ พร้อมสเปคที่ถือว่าเกินตัวไปมากเลยทีเดียว สำหรับ BYD DOLPHIN ตอนนี้จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น คือ Standard Range ราคา 699,999 บาท และ Extended Range ราคา 859,999 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีขนาด และน้ำหนักที่เท่ากัน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของพละกำลัง ความจุแบต ระยะทางการขับขี่ ระบบความปลอดภัย และพวกอุปกรณ์ตกแต่ง ซึ่งถ้าใครที่งบไม่เยอะ และส่วนใหญ่ใช้งานในเมืองโดยมีระยะทางการขับขี่โดยปกติไม่ไกลมากนักในแต่ละครั้ง แนะนำเป็น Standard Range ก็พอ ส่วนใครที่เน้นใช้งานจริงจัง และต้องการพละกำลังในการขับขี่ อาจจะต้องไปเลือกเป็นรุ่น Extened Range แทนครับ สำหรับสเปคโดยรวมก็สรุปไว้ให้แล้วดังนี้
Standard Range ราคา 699,999 บาท
กำลังสูงสุด 70 แรงม้า
แรงบิตสูงสุด 180 นิวตันเมตร
ความจุแบตเตอรี่ 44.9 กิโลวัตต์
ระยะทางวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
Extened Range ราคา 859,999 บาท
กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
แรงบิตสูงสุด 310 นิวตันเมตร
ความจุแบตเตอรี่ 60.48 กิโลวัตต์
ระยะทางวิ่งสูงสุด 490 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
2.NETA V ราคา 549,000 บาท

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า NETA V ต้องบอกว่า ราคาดีมาก เพราะขายที่ 549,000 บาท เท่านั้น เล่นเอารถน้ำมันเดิมๆ ดูแพงไปเลย การออกแบบของ NETA V ก็จะเป็นซิตี้คาร์ ที่ดูรูปทรงแล้ว ก็จะดูเล็กๆ หน่อย แต่ไม่ได้เล็กแบบในภาพ เพราะสามารถจุของได้ค่อนข้างเยอะ และปรับพับเบาะลงเพื่อบรรทุกของเพิ่มได้อีกด้วย มีสีให้เลือกมากถึงว 6 สีกันเลย สำหรับออปชั่นต่างๆ นั้น ก็จัดให้มาเต็มมาก ตั้งแต่จอกลางขนาด 14.6 นิ้ว ขนาดใหญ่มาก ทำให้กดหน้าจอเพื่อสั่งงานได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีจอแบบแนวนอนขนาด 12 นิ้ว สำหรับแสดงผลการขับขี่ติดตั้งมาให้อีกด้วย
พละกำลังของรถรุ่นนี้ ก็ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร แบบเตอรี่ขนาด 40.7 กิโลวัตต์ สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดที่ 384 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็ว DC จาก 30 – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน V2L (Vehicle to load) เพื่อจ่ายไฟรถให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ที่กำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นก็เรียกว่ามาให้แบบครบๆ แบบเดียวกับรถน้ำมันรุ่นท็อปกันเลย ใครสนใจรถซิตี้คาร์ แบบงบประหยัด NETA V เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
NETA V ราคา 549,999 บาท
กำลังสูงสุด 95 แรงม้า
แรงบิตสูงสุด 150 นิวตันเมตร
ความจุแบตเตอรี่ 40.7 กิโลวัตต์
ระยะทางวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
3. ORA Good Cat ราคา 799,000 – 899,000 บาท

ORA Good Cat หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี และการดีไซน์นั้นบอกเลยว่า น่ารักมากกก เป็นน้องแมวที่สาวๆ ชอบกันเลยทีเดียว สำหรับ ORA Good Cat ที่เปิดจำหน่ายในบ้านเรานั้น ก็จะมีด้วยกัน 3 รุ่นก็คือ Pro , Ultra และ GT แต่ว่าจะมีเพียง 2 รุ่นเท่านั้น ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท คือ Pro และ Ultra ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีสเปคในส่วนของพละกำลัง ความจุแบต ระยะทางในการขับขี่นั้นเท่ากัน แต่จะแตกต่างในเรื่องของพวกการตกแต่ง ออปชั่น และระบบความปลอดภัย โดยรุ่น Ultra จะได้ไฟหน้า LED อัจฉริยะ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า มีเบาะนวดคนขับ สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ ลำโพง 6 ตำแหน่ง รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มากกว่ารุ่น Pro เยอะเลยทีเดียว ดูจากราคาค่าตัวแล้ว บอกตรงๆ เลยว่า ถ้าจะซื้อ แนะนำเป็นรุ่น Ultra ไปเลยดีกว่าครับ คุ้มค่ากว่ามาก เอาเฉพาะส่วนของระบบความปลอดภัยก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเพิ่มแล้ว
กำลังสูงสุด 143 แรงม้า
แรงบิตสูงสุด 210 นิวตันเมตร
ความจุแบตเตอรี่ 57.70 กิโลวัตต์
ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
4.MG 4 ELECTRIC ราคา 869,000 – 969,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้าจาก MG ดีไซน์ออกแบบมาในแนวสปอร์ต มีให้เลือกถึง 6 สี ในรุ่น X มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่มีประสิทธิภาพในการส่งกำลังได้ดียิ่งขึ้น พร้อมการออกแบบแบตเตอรี่ให้ติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กประสิทธิภาพสูง ระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ซึ่งช่วยให้การเข้าโค้ง การเกาะถนน และการขับขี่ดีขึ้น
สำหรับสมรรถนะของทั้ง 2 รุ่นนี้จะเหมือนกันเกือบทั้งหมด จะแตกต่างกันในเรื่องของออปชั่นต่างๆ และระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่รุ่น X จะมีมาให้มากกว่า รวมถึง ระบบ i-Smart ที่จะมีเฉพาะรุ่น X
ห้องโดยสารเน้นความเรียบโปร่งในแบบ Mininal Sportiness มีจอทัสกรีนขนาด 10.25 นิ้วเพื่อความบันเทิง พร้อมจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เบาะด้านหลังพับได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่การใส่ของ สำหรับคันนี้ก็เหมาะกับคนที่เน้นเรื่องของการขับขี่เป็นพิเศษ เรียกว่าเป็นรถที่ขับสนุกอีกคันเลยก็กว่าได้ แรง หนึบ ออปชั่นครบ
รุ่น D ราคา 869,000 บาท
รุ่น X ราคา 969,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้า 170 แรงม้า
แรงบิตสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
แบตเตอรี่ความจุ 51 kWh
ระยะทางสูงสุด 425 กม. (มาตรฐาน NEDC)
5. AION ราคา 899,900 – 995,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Crossover ที่บอกได้เลยว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ด้วยตัวรถความยาวมากถึง 4,535 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ตัวรถจะเน้นความกว้างขวางเป็นพิเศษ เหมาะเป็นรถครอบครัวมากๆ ประตูหลังเปิดได้กว้างมาก ขึ้นลงรถได้สะดวก การเก็บเสียงทำได้ค่อนข้างดี พร้อมออปชั่นต่างๆ ที่จัดเต็มไม่แพ้รุ่นอื่นๆ กันเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับรถที่ราคาเกิน 1 ล้านบาทแล้ว บอกเลยว่ารุ่นนี้คุ้มกว่ามาก รถใหญ่ แบตใหญ่ ขับได้ไกลกว่า
AION Y PLUS ราคา 899,900 บาท
AION Y Plus 490 Elite ราคา 995,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร
แบตเตอรี่ความจุ 63.2 kWh
ระยะทางสูงสุด 490 กม. (มาตรฐาน NEDC)
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลแบบสรุปสำหรับ 5 รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม ในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ช่วงต้นปี 2024 ใครที่มีงบไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ครับ และใครที่มีงบมากกว่านี้จะขยับไปรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่มีสเปคสูงๆ กว่านี้ก็ถือว่ายังน่าสนใจอีกเช่นกัน เพราะตอนนี้หลายๆ รุ่นปรับราคาลงมามากมาย บางรุ่นราคาแค่ล้านต้นๆ แต่ได้ออปชั่นแบบเต็มๆ ก็มีเช่นกันครับ ก็ขอให้ทุกท่านได้รถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกใจไปใช้งานกันนะครับ