ในยุคที่ทั่วโลกต่างมุ่งหน้าสู่การใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน พลังงานลมได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีกังหันลมแนวตั้ง หรือ Vertical Axis Wind Turbine (VAWT) ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด โดยเฉพาะในเขตเมือง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกังหันลมแนวตั้งในทุกแง่มุม ตั้งแต่หลักการทำงาน ประเภทต่างๆ ข้อดีข้อเสีย การประยุกต์ใช้ ไปจนถึงสถานการณ์ในประเทศไทย
ทำความรู้จัก กังหันลมแนวตั้ง คืออะไร
กังหันลมแนวตั้ง คือ กังหันลมที่มีแกนหมุนและใบพัดตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของลมในแนวราบ ต่างจากกังหันลมแนวแกนนอน (Horizontal Axis Wind Turbine หรือ HAWT) ที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งมีแกนหมุนขนานไปกับทิศทางลม การออกแบบที่แตกต่างนี้ทำให้กังหันลมแนวตั้งมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่น่าสนใจและเหมาะกับการใช้งานในหลายบริบท โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีลมไม่สม่ำเสมอหรือมีพื้นที่จำกัด
หลักการทำงานของกังหันลมแนวตั้งคือการเปลี่ยนพลังงานจลน์ของลมให้เป็นพลังงานกลเพื่อขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยใบพัดจะรับแรงลมและหมุนรอบแกนตั้ง ทำให้เกิดการผลิตกระแสไฟฟ้า กังหันลมประเภทนี้สามารถรับลมได้จากทุกทิศทางโดยไม่จำเป็นต้องหันหน้าเข้าหาลม ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับกังหันลมแนวแกนนอน
ประเภทของกังหันลมแนวตั้ง
กังหันลมแนวตั้งสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามลักษณะการออกแบบของใบพัดและหลักการรับแรงลม ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป โดยประเภทที่นิยมและมีการศึกษาค้นคว้าอย่างแพร่หลาย ได้แก่
1. กังหันลม Savonius (ซาโวเนียส)

กังหันลม Savonius เป็นกังหันลมแนวตั้งที่ทำงานโดยอาศัยหลักการต้านทานแรงลม (Drag-type) มีลักษณะใบพัดโค้งคล้ายช้อนหรือถังผ่าครึ่งสองอันประกบกัน โดยมีช่องว่างตรงกลางเพื่อดักจับลม การออกแบบนี้ทำให้กังหันลม Savonius สามารถเริ่มต้นหมุนได้เองแม้ในความเร็วลมที่ต่ำมาก และมีแรงบิดเริ่มต้นสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีลมไม่แรงมากนัก หรือในสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีทิศทางลมเปลี่ยนแปลงบ่อย อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของกังหันลม Savonius มักจะต่ำกว่ากังหันลมประเภทที่อาศัยแรงยก (Lift-type)
2. กังหันลม Darrieus (แดร์เรียส)

กังหันลม Darrieus เป็นกังหันลมแนวตั้งที่ทำงานโดยอาศัยหลักการแรงยก (Lift-type) มีลักษณะใบพัดเป็นเส้นโค้งคล้ายรูปไข่ หรือรูปตัว H (H-rotor/H-Darrieus) ที่เรียกว่า Troposkien ซึ่งเป็นรูปทรงที่ช่วยให้แรงที่กระทำต่อใบพัดตั้งฉากกับความโค้งของใบพัดในทุกจุด ทำให้สามารถหมุนด้วยความเร็วรอบสูงและมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าที่ดีกว่ากังหันลม Savonius กังหันลม Darrieus เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีลมค่อนข้างแรงและสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม กังหันลมประเภทนี้มักจะไม่สามารถเริ่มต้นหมุนได้เองในความเร็วลมต่ำ จึงอาจต้องอาศัยกลไกช่วยในการเริ่มต้นหมุน หรือใช้ร่วมกับกังหันลม Savonius ในบางกรณี
3. กังหันลม Helix (เฮลิกซ์)

กังหันลม Helix เป็นกังหันลมแนวตั้งที่มีรูปทรงใบพัดเป็นเกลียวสวยงาม การออกแบบใบพัดแบบเกลียวนี้ช่วยให้การรับลมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและลดการสั่นสะเทือน ทำให้การทำงานราบรื่นและเงียบกว่ากังหันลมบางประเภท กังหันลม Helix มักถูกนำไปติดตั้งในอาคารหรือพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามและเสียงรบกวนต่ำ นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้ดีในสภาพลมที่หลากหลาย
4. Vortex Bladeless กังหันลมไม่มีใบพัด

Vortex Bladeless ซึ่งเป็นนวัตกรรมกังหันลมแนวตั้งที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่มีใบพัด กังหันลมประเภทนี้มีลักษณะคล้ายเสาเล็กๆ ที่สั่นสะเทือนเมื่อโดนลม โดยจะแปลงแรงสั่นสะเทือนนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ข้อดีคือเสียงเงียบมาก ปลอดภัยต่อสัตว์ปีก และใช้พื้นที่น้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการติดตั้งในเขตเมืองใหญ่ ปัจจุบันมีการทดลองใช้งานในหลายเมืองทั่วโลก เช่น มาดริด โตเกียว และนิวยอร์ก
เพื่อให้เห็นภาพรวมของกังหันลมแนวตั้งแต่ละประเภทได้ชัดเจนขึ้น สามารถดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเบื้องต้นได้ดังนี้
| ประเภทกังหันลมแนวตั้ง | หลักการทำงาน | ลักษณะใบพัด | ข้อดีเด่น | ข้อจำกัด | การประยุกต์ใช้ |
| Savonius | แรงต้าน (Drag) | โค้งคล้ายช้อน/ถังผ่าครึ่ง | เริ่มหมุนได้เองที่ลมต่ำ, แรงบิดสูง | ประสิทธิภาพต่ำ | บ้านเรือน, พื้นที่ลมเบา, เสริมระบบอื่น |
| Darrieus (รวม H-rotor) | แรงยก (Lift) | โค้งรูปไข่/ตัว H | ประสิทธิภาพสูงที่ลมแรง, ความเร็วรอบสูง | อาจไม่เริ่มหมุนเองที่ลมต่ำ | พื้นที่ลมแรง, การผลิตไฟฟ้าขนาดกลาง |
| Helix | แรงยก (Lift) | ใบพัดเกลียว | ทำงานเงียบ, สวยงาม, ลดการสั่นสะเทือน | ต้นทุนอาจสูงกว่าบางประเภท | อาคาร, พื้นที่เมือง, เน้นสุนทรียภาพ |
| Vortex Bladeless | การสั่นสะเทือน | ไม่มีใบพัด (เสา) | เสียงเงียบมาก, ปลอดภัยต่อนก, ใช้พื้นที่น้อย | ประสิทธิภาพอาจยังไม่สูงเท่าแบบมีใบพัด | พื้นที่เมือง, ดาดฟ้าอาคาร |
ข้อดีและข้อเสียของกังหันลมแนวตั้ง
กังหันลมแนวตั้งมีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับกังหันลมแนวแกนนอน แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาเช่นกัน
ข้อดีของกังหันลมแนวตั้ง
- รับลมได้ทุกทิศทาง กังหันลมแนวตั้งไม่จำเป็นต้องมีระบบหันหน้าเข้าหาลม (Yaw mechanism) เนื่องจากใบพัดสามารถรับลมได้จากทุกทิศทาง นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในพื้นที่ที่มีทิศทางลมเปลี่ยนแปลงบ่อยหรือมีลมปั่นป่วน เช่น ในเขตเมืองที่มีอาคารสูง
- ทำงานได้ดีในลมต่ำและลมปั่นป่วน การออกแบบของกังหันลมแนวตั้งหลายประเภท โดยเฉพาะ Savonius สามารถเริ่มต้นหมุนได้ในความเร็วลมที่ต่ำมาก และยังคงทำงานได้ดีแม้ในสภาพลมที่ไม่มีความสม่ำเสมอหรือมีกระแสลมปั่นป่วน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสภาพแวดล้อมในเมือง
- เสียงรบกวนต่ำ โดยทั่วไปแล้ว กังหันลมแนวตั้งมีระดับเสียงรบกวนที่ต่ำกว่ากังหันลมแนวแกนนอน ทำให้เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ใกล้ชุมชนหรือบนอาคารที่อยู่อาศัย
- ปลอดภัยต่อสัตว์ปีก เนื่องจากใบพัดหมุนในแนวตั้งและมีความเร็วรอบที่ปลายใบพัดต่ำกว่ากังหันลมแนวแกนนอนมาก จึงลดความเสี่ยงที่นกหรือค้างคาวจะบินชนใบพัด
- บำรุงรักษาง่าย ชิ้นส่วนหลักของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบบส่งกำลังมักจะอยู่ที่ระดับพื้นดิน ทำให้การเข้าถึงเพื่อบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมทำได้ง่ายและปลอดภัยกว่า
- ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย กังหันลมแนวตั้งสามารถติดตั้งได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนดาดฟ้าอาคาร หรือตามแนวรั้ว ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเขตเมืองที่พื้นที่เป็นสิ่งมีค่า
- ความสวยงามและทัศนียภาพ กังหันลมแนวตั้งบางประเภท เช่น Helix มีรูปทรงที่สวยงามและกลมกลืนกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ได้ดีกว่ากังหันลมแนวแกนนอนขนาดใหญ่
ข้อเสียของกังหันลมแนวตั้ง
- ประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่า โดยทั่วไปแล้ว กังหันลมแนวตั้งมักจะมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานลมเป็นไฟฟ้าที่ต่ำกว่ากังหันลมแนวแกนนอนที่มีขนาดใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในสภาวะลมแรงและสม่ำเสมอ
- อาจไม่สามารถเริ่มต้นหมุนได้เอง (สำหรับบางประเภท) กังหันลม Darrieus ซึ่งเป็นประเภทที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า Savonius มักมีปัญหาในการเริ่มต้นหมุนเองในความเร็วลมต่ำ ซึ่งอาจต้องใช้มอเตอร์ขนาดเล็กช่วยในการสตาร์ท หรือออกแบบร่วมกับกังหันลม Savonius
- ปัญหาความล้าของวัสดุ เนื่องจากใบพัดของกังหันลมแนวตั้งต้องรับแรงลมที่เปลี่ยนแปลงทิศทางอยู่ตลอดเวลา อาจส่งผลให้เกิดความล้าของวัสดุ (Fatigue) ได้ง่ายกว่าในระยะยาว หากการออกแบบและวัสดุไม่เหมาะสม
- ความซับซ้อนในการออกแบบใบพัด การออกแบบใบพัดสำหรับกังหันลมแนวตั้งบางประเภท เช่น Darrieus ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการอากาศพลศาสตร์ที่ซับซ้อน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

การประยุกต์ใช้งานกังหันลมแนวตั้ง
ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว กังหันลมแนวตั้งจึงถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่กังหันลมแนวแกนนอนไม่เหมาะสม
- การผลิตไฟฟ้าในเขตเมือง นี่คือการประยุกต์ใช้ที่สำคัญที่สุดของกังหันลมแนวตั้ง ด้วยข้อดีเรื่องการรับลมได้ทุกทิศทาง เสียงเงียบ และใช้พื้นที่น้อย ทำให้สามารถติดตั้งบนดาดฟ้าอาคารสูง อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่ตามแนวถนน เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองภายในอาคาร ลดภาระการใช้ไฟฟ้าจากโครงข่ายหลัก และส่งเสริมแนวคิด “ฟาร์มพลังงานขนาดย่อม” ในเมือง
- ระบบไฟฟ้าสำหรับบ้านเรือนและธุรกิจขนาดเล็ก กังหันลมแนวตั้งขนาดเล็กเหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้านเรือน ฟาร์มขนาดเล็ก หรือรีสอร์ท เพื่อเสริมระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ในรูปแบบไฮบริด โดยกังหันลมจะผลิตไฟฟ้าในเวลากลางคืนหรือวันที่ไม่มีแดด ช่วยให้มีแหล่งพลังงานสำรองที่เชื่อถือได้
- ระบบไฟฟ้าสำหรับพื้นที่ห่างไกล ในพื้นที่ที่การเข้าถึงโครงข่ายไฟฟ้าทำได้ยาก กังหันลมแนวตั้งสามารถเป็นส่วนหนึ่งของระบบผลิตไฟฟ้าแบบ Stand-alone ร่วมกับแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟส่องสว่าง ระบบสื่อสาร หรือปั๊มน้ำ
- โครงการสาธิตและงานวิจัย กังหันลมแนวตั้งยังคงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับการวิจัยและพัฒนา เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และหาวิธีการประยุกต์ใช้ใหม่ๆ ทำให้มีการติดตั้งเพื่อการศึกษาและสาธิตในสถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยต่างๆ
- ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างอัจฉริยะ ด้วยรูปทรงที่สวยงามและสามารถทำงานได้ในพื้นที่จำกัด กังหันลมแนวตั้งบางประเภทถูกนำไปรวมกับการออกแบบป้ายโฆษณา หรือโครงสร้างอาคาร เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์เหล่านั้นโดยตรง
กังหันลมแนวตั้งในประเทศไทย
ประเทศไทยมีความตื่นตัวในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าศักยภาพลมโดยรวมของประเทศจะอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับบางประเทศ แต่กังหันลมแนวตั้งก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการใช้งานขนาดเล็กและในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด
- งานวิจัยและพัฒนา หน่วยงานวิจัยและสถาบันการศึกษาหลายแห่งในประเทศไทยได้ทำการวิจัยและพัฒนากังหันลมแนวตั้งมาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ได้มีการวิจัยกังหันลมแกนตั้งชนิดเดเรียสที่สามารถเริ่มต้นหมุนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาข้อด้อยสำคัญของกังหันลมประเภทนี้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ไม่มีแรงต้านการหมุนจากแม่เหล็ก (cogging torque) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเริ่มต้นและเร่งความเร็ว
- โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของการนำกังหันลมแนวตั้งมาใช้ในประเทศไทยคือที่โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี โครงการนี้ได้ติดตั้ง “กังหันลมผลิตไฟฟ้าความเร็วต่ำ” ที่สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้แม้ในความเร็วลมเพียง 2.5 เมตรต่อวินาที ซึ่งเหมาะสมกับสภาพลมในพื้นที่ กังหันลมที่ใช้ในโครงการนี้ยังเป็นผลงานการผลิตของศูนย์วิจัยพลังงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยใช้วัสดุภายในประเทศเป็นส่วนประกอบกว่า 80% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบุคลากรและอุตสาหกรรมไทยในการพัฒนากังหันลมแนวตั้ง
- การผลิตโดยฝีมือคนไทย มีความพยายามในการพัฒนากังหันลมแนวตั้งโดยฝีมือคนไทย โดยมีการนำยางพาราซึ่งเป็นวัสดุในประเทศมาเป็นส่วนประกอบหลักในใบพัดและโครงสร้าง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรของไทย กังหันลมขนาดเล็กเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับความเร็วลมเฉลี่ยทั่วประเทศ และสามารถนำไปใช้ชาร์จแบตเตอรี่เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็กได้
- การใช้งานในภาคเอกชนและครัวเรือน บริษัทและผู้ประกอบการบางรายในประเทศไทยได้นำเสนอกังหันลมแนวตั้งสำหรับติดตั้งในบ้านเรือน ธุรกิจขนาดเล็ก หรือรีสอร์ท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของระบบพลังงานทางเลือก ซึ่งมักจะใช้ร่วมกับแผงโซลาร์เซลล์เพื่อสร้างระบบไฮบริดที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดทั้งวันและคืน
- แนวโน้มในอนาคต แม้ว่ากังหันลมแนวแกนนอนขนาดใหญ่จะยังคงเป็นกำลังหลักในการผลิตไฟฟ้าจากลมในระดับอุตสาหกรรมของประเทศไทย แต่กังหันลมแนวตั้งกำลังเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดพลังงานขนาดเล็กและในเขตเมือง ด้วยข้อดีที่ตอบโจทย์การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัดมากขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง การลดต้นทุน และการสนับสนุนจากภาครัฐ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กังหันลมแนวตั้งมีบทบาทมากขึ้นในภูมิทัศน์พลังงานสะอาดของประเทศไทยในอนาคต
ตารางสรุปสถานการณ์กังหันลมแนวตั้งในประเทศไทย
| ด้าน | รายละเอียด |
| งานวิจัยและพัฒนา | – MTEC วิจัย Darrieus ที่เริ่มหมุนเองได้ – พัฒนาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าลดแรงต้าน – สถาบันการศึกษาหลายแห่งวิจัยต่อเนื่อง |
| โครงการเด่น | – โครงการชั่งหัวมันฯ ติดตั้ง VAWT ผลิตโดย มทร.ธัญบุรี – ใช้ VAWT ที่ทำงานได้ในลมต่ำ (2.5 ม./วินาที) |
| การผลิตในประเทศ | – มีการพัฒนา VAWT โดยฝีมือคนไทย – ใช้วัสดุในประเทศ เช่น ยางพารา เป็นส่วนประกอบสำคัญ |
| การประยุกต์ใช้ | – ระบบไฟฟ้าสำหรับบ้านเรือนและธุรกิจขนาดเล็ก – ระบบไฮบริดร่วมกับโซลาร์เซลล์ – โครงการสาธิตและวิจัย |
| ศักยภาพ | – เหมาะสำหรับพื้นที่ลมต่ำและลมปั่นป่วนในเมือง – ตอบโจทย์การผลิตไฟฟ้ากระจายศูนย์ (Distributed Generation) |
อนาคตของกังหันลมแนวตั้ง
กังหันลมแนวตั้งเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์พลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองที่การติดตั้งกังหันลมแนวแกนนอนขนาดใหญ่ทำได้ยาก ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ กังหันลมแนวตั้งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานสะอาดที่อยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบนดาดฟ้าอาคาร บ้านเรือน หรือแม้แต่ตามแนวถนน
แนวคิดที่ว่าตึกในเมืองจะกลายเป็น “ฟาร์มพลังงานขนาดย่อม” ที่สามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยนวัตกรรมอย่างกังหันลมแนวตั้งที่สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอื่นๆ เช่น โซลาร์เซลล์ เพื่อสร้างระบบพลังงานแบบผสมผสานที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพ การพัฒนาเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายการลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล และสร้างอนาคตที่สะอาดและยั่งยืนสำหรับทุกคน
สรุป
กังหันลมแนวตั้งเป็นนวัตกรรมพลังงานลมที่โดดเด่นด้วยความสามารถในการรับลมได้จากทุกทิศทาง ทำงานได้ดีในสภาพลมต่ำและปั่นป่วน มีเสียงรบกวนต่ำ และเหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะในเขตเมือง แม้จะมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพโดยรวมเมื่อเทียบกับกังหันลมแนวแกนนอน แต่ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการประยุกต์ใช้ในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของกังหันลมประเภทนี้
ในประเทศไทยเองก็มีการศึกษา วิจัย และพัฒนา กังหันลมแนวตั้งอย่างจริงจัง โดยมีโครงการต้นแบบและการผลิตโดยฝีมือคนไทยที่น่าภาคภูมิใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน และการก้าวไปสู่สังคมที่ใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน กังหันลมแนวตั้งจึงเป็นมากกว่าแค่เทคโนโลยี แต่เป็นความหวังและก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับโลกของเรา















