News & Update

สตาร์บัคส์ ลุย Net Zero ขยาย “ร้านกาแฟสีเขียว” ลดใช้แก้วพลาสติก-ลด CO2

สตาร์บัคส์ เปิดเส้นทาง Net Zero ลุยลดขยะ ลดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการใชน้ำลง 50% ภายในปี 2030 สานต่อแคมเปญ Little Choices Big Change การใช้แก้ว Reuseable / แก้วส่วนตัว พร้อมขยาย Green Stores จาก 12 เป็น 20 สาขาสิ้นปีนี้

ปี ค.ศ.2011 สตาร์บัคส์ได้จดบันทึกการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) เพื่อติดตามและวัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประเมินการปล่อยก๊าซจากร้านและกิจกรรมการคั่วอบกาแฟของทั่วโลก

โดยอิงจากระเบียบการว่าด้วยเรื่องก๊าซเรือนกระจกของสถานบัน World Resources Institute และพบว่ากว่า 80% ของก๊าซเรือนกระจกของสตาร์บัคส์ เป็นผลมาจากพลังงานที่ใช้ในร้าน สำนักงาน และโรงงานคั่วอบกาแฟ สตาร์บัคส์จึงมุ่งเน้นการประหยัดพลังงานและการเลือกใช้พลังงานหมุนเวียน

สตาร์บัคส์ได้ใช้ระเบียบ WRI/WBCSD GHG มาตรฐานองค์กร เพื่อประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปีงบประมาณ 2010 จากรายงานในปี 2011 พบว่าประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซ GHG ลงไปกว่า 2.7% (เมื่อคิดแบบสัมบูรณ์) เมื่อเทียบกับ GHG ฟุตพริ้นท์ปริมาณ 1,006,954 เมตริกตันในปี 2010

การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สตาร์บัคได้มุ่งเน้นในมิติหลัก ๆ ได้แก่ การรีไซเคิลและการลดขยะ การประหยัดพลังงาน การประหยัดนํ้า การสร้างร้านสีเขียว และการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ โดยให้ความสำคัญตลอดซัพพลายเชน ตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลายนํ้า

ตั้งเป้าลดขยะ 50%

นางเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สตาร์บัคส์มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการใช้นํ้าและลดปริมาณขยะลง 50% ภายในปี 2030 (พ.ศ.2573) โดยส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย คือ การจัดทำแคมเปญ Little Choices Big Changes ชวนลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว (การใช้แก้ว Reuseable) ด้วยการมอบส่วนลด 10 บาท สำหรับลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ 21 มีนาคม ถึง 23 เมษายน ค.ศ.2024 สำหรับสมาชิกสตาร์บัคส์ Reward จะได้ส่วนลด 20 บาท

เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย
เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย

ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์สามารถลดขยะแก้วพลาสติกไปได้ราว 29 ล้านใบ โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้แก้ว For Here  (พร้อมบริการทุกสาขาแล้ว) แทนแก้วพลาสติก To Go สำหรับเป้าหมายในการรณรงค์ปีนี้ตั้งเป้า 3 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 50% จากปี 2023 ที่ลดได้ประมาณ 2 ล้านใบ

สตาร์บัคส์ได้ริเริ่มดำเนินโครงการ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มาจากแก้วใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาปลอกสวมแก้วจากกระดาษรีไซเคิล ใช้ถ้วยกระดาษเครื่องดื่มร้อน ซึ่งประกอบด้วยเยื่อกระดาษรีไซเคิลที่ผ่านการใช้งานแล้วถึง 10% ใช้ถ้วยพลาสติกใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

ขยาย “ร้านกาแฟสีเขียว”

อีกหนึ่งแนวทางสำคัญสู่เป้าหมาย Net Zero คือการทำร้านกาแฟสีเขียว หรือ Greener Stores ซึ่งเป็นร้านกาแฟของสตาร์บัคส์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบการบริหารจัดการพลังงานที่จัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อการคงสถานะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมไปถึงการระบุการใช้พลังงานที่บกพร่อง เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในครั้งต่อไป

สตาร์บัคส์รับอาสาเป็นผู้นำร่วมกับผู้ค้าปลีกรายอื่นและ USGBC (US Green Building Council) ตั้งแต่ปี 2001 เพื่อสร้างระบบการรับรองร้านค้าปลีกและสร้างต้นแบบของร้าน LEED กระบวนการนี้เป็นการรับรองร้านสีเขียวแบบล่วงหน้า คือตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงกลยุทธ์การปฏิบัติงาน หลังจากที่ได้รับการรับรองแล้ว จะมีการสุ่มตรวจสอบและทบทวนการรับรองอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าเราปฏิบัติงานตรงตามมาตรฐานขั้นสูงที่กำหนดไว้

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย พัฒนาร้านภายใต้แนวคิด “ร้านกาแฟสีเขียว” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 โดยในขณะนี้ ได้รับการรับรองจาก LEED แล้ว 8 สาขา ถึงสิ้นปีนี้จะได้เพิ่มอีก 12 สาขา รวมเป็น 20 สาขา ภายในปี ค.ศ.2024 จากจำนวนสาขาที่มีอยู่ปัจจุบัน 490 สาขา โดยสตาร์บัคส์มีแผนขยายสาขาปีละ 30-40 สาขาต่อปี

ดูแลนํ้า ดูแลชุมชน

นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ยังร่วมกับ NGO พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเขา ด้วยการนำผลผลิตกาแฟมาใช้ในสตาร์บัคส์ ให้ได้เมล็ดกาแฟให้ได้ตามคุณภาพ CAFE Practices นำมาขายให้กับสตาร์บัคส์ได้ในราคาสูง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นอกจากกาแฟ อย่างชุดน้องหมี กระเป๋าจากผ้าย้อมคราม เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และไม่ลืมที่จะกลับไปเยี่ยมเยียนชุมชน

ส่วนของนํ้า มีการลดการใช้นํ้าภายในร้าน เช่น การใช้ก๊อกนํ้าที่ใช้มือเปิดแทน ลดการใช้นํ้าลงถึง 15% แทนการเลิกใช้ถัง Dipper Well ซึ่งเป็นอ่างขนาดเล็กมีนํ้าไหลตลอดเวลาและใช้ล้างช้อนสำหรับเทนมลงในเอสเพรสโซ่

ร้านสตาร์บัคส์ในหลายประเทศใช้นํ้าแรงดันสูงฉีดล้างถังผสมแทนการเปิดก๊อกนํ้าตามปกติ นอกจากนี้ ยังตั้งโปรแกรมให้เครื่องชงเอสเพรสโซ่ปล่อยนํ้าออกมาน้อยลงในการล้างแก้วเอสเพรสโซ่ช็อต อีกทั้ง ยังฝึกอบรมพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ให้รักษาความสะอาดคอยล์ทำความเย็นของเครื่องทำนํ้าแข็งอยู่เสมอ เพื่อลดปริมาณความร้อนแฝงจากเครื่องจักรและลดนํ้าแข็งละลาย

นอกจากนี้ ทีมงานของสตาร์บัคส์ ยังได้ร่วมกิจกรรม World Water Day เป็นประจำทุกปี และได้สร้าง Aqua Towers ไปแล้วถึง 5 โครงการ เพื่อส่งมอบนํ้าสะอาดให้ชุมชนที่ต้องการ รวมทั้งได้เปิดตัวโปรแกรม Grounds for Your Garden ลูกค้าสามารถนำกากกาแฟที่สตาร์บัคส์กลับไปผสมดินเพื่อปลูกต้นไม้หรือทำสวนที่บ้านได้ โดยในปีพ.ศ. 2566 สตาร์บัคส์ได้แจกกากกาแฟไปแล้วกว่า 4,000 กิโลกรัมทั่วประเทศ

เนื้อหาน่าสนใจ :  ACER ปักหมุด Net Zero ท้าพิสูจน์ใช้พลังงานหมุนเวียน 60% ปี 2025

Source : ฐานเศรษฐกิจ

Tags:

“บ้านปู” ดัน “สินนท์” นั่งซีอีโอ ทุ่ม 1.2 หมื่นล้าน ลุยพลังงานทดแทน-แบตเตอรี่

บ้านปู ขยับองค์กร ดึงคนรุ่นใหม่ “สินนท์ ว่องกุศลกิจ” นั่งแท่นซีอีโอ ขับเคลื่อนธุรกิจ ย้ำกลยุทธ์ “Greener &…

จีนประสบความสำเร็จ ส่ง “ดาวเทียมสำรวจสุริยะ” ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองจิ่วเฉวียน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า จีนประสบความสำเร็จ ในการส่งดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์ จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วเฉวียน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งตอกย้ำความพยายามทางวิทยาศาสตร์ของจีน ในการไขปริศนาอีกมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์

“สุพัฒนพงษ์” ลั่นค่าไฟ 4.77 บาท/หน่วย รัฐบาลรักษาการเปลี่ยนแปลงไม่ได้

“สุพัฒนพงษ์” ยอมรับว่าค่าไฟฟ้างวด พ.ค.-ส.ค. 66 ที่ กกพ.เห็นชอบไปแล้วที่เฉลี่ย 4.77 บาท/หน่วยไม่สามารถเปลี่ยนได้เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่พร้อมเสนอดูแลค่าไฟกลุ่มเปราะบางโดยจะขอความเห็นชอบทั้ง ครม.และส่ง…

Leave a Reply