News & Update

โซลาร์รูฟท็อปกับเมืองอัจฉริยะ พลังงานอนาคต เริ่มต้นจาก “หลังคา”

เรากำลังพูดถึงระบบผลิตไฟฟ้าที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ใหม่ ไม่ต้องรอเขื่อนหรือสายส่งพาดผ่านหลังบ้าน แต่ใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วคือ หลังคาบ้านของคุณเอง

โลกกำลังหมุนไปสู่พลังงานสะอาด การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เริ่มต้นจากเขื่อนขนาดยักษ์หรือแหล่งพลังงานทะเลทราย แต่มาจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราเห็นทุกวัน หลังคาบ้าน จุดเริ่มต้นของ “โซลาร์รูฟท็อป” (Rooftop Solar PV) ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่สามารถเปลี่ยนทุกอาคารให้เป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาดแบบกระจายศูนย์

มาถึงวันนี้ “โซลาร์รูฟท็อป” จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกของบ้านคนรักสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกลไกสำคัญของเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ทั่วโลก ที่ต้องการลดคาร์บอน สร้างความมั่นคงทางพลังงาน และคืนอำนาจการผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชน
 

ขณะที่ก้าวสำคัญของประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มติ ครม.เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้า ‘พลังงานแสงอาทิตย์’ เปิดทางให้ติดตั้ง ‘Solar Rooftop’ โดยไม่ต้องขออนุญาต ส่งผลให้ประชาชนเดินหน้าสู่การใช้พลังงานสะอาดได้อย่างเป็นรูปธรรม สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ “การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop)” เพื่อใช้เอง ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากรัฐอีกต่อไป เพียงแค่แจ้งต่อกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน เท่านั้น

เรามาลองสำรวจในมุมอื่นๆ ของโซลาร์รูฟท็อปในมุมอื่นๆ เช่น เรื่องของความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ที่บอกว่า หากลงทุนวันนี้ จะสามารถคืนทุนเร็วขึ้นกว่าที่เคย

เพราะหนึ่งในคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “ติดโซลาร์รูฟคุ้มจริงหรือ?” คำตอบวันนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากเมื่อ 5 ปีก่อน เพราะข้อเท็จจริงต่อไปนี้

ข้อมูลจากรายงานของ International Renewable Energy Agency (IRENA) ปี 2020 ระบุว่า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์แบบแผงโซลาร์ (solar photovoltaic – PV) ลดลงมากกว่า 80% ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2020 รายงานนี้เผยแพร่ในชื่อ “Renewable Power Generation Costs in 2020” โดยระบุว่า ราคาต้นทุนเฉลี่ยของแผงโซลาร์ลดจากประมาณ 0.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) เหลือประมาณ 0.068 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ kWh

Bloomberg New Energy Finance (BNEF) รายงานในปี 2021 ว่า ราคาต้นทุนแผงโซลาร์ลดลงเกิน 80% ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น รวมถึงขนาดเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รายงานประจำปี “New Energy Outlook 2021” เน้นให้เห็นว่าโซลาร์เป็นพลังงานหมุนเวียนที่ราคาถูกที่สุดในหลายภูมิภาค

– อายุการใช้งานแผงอยู่ที่ 25–30 ปี ในขณะที่ค่าไฟมีแนวโน้มสูงขึ้น

– ระบบขนาด 3–5 kWp สำหรับบ้านพักอาศัยสามารถ สามารถคืนทุนได้ใน 5–7 ปี และประหยัดค่าไฟ เดือนละ 1,000–3,000 บาท

– โครงการบ้านจัดสรรหลายแห่งมีการติดตั้งแถมฟรี หรือเสนอเงื่อนไขผ่อน 0% พร้อมรับประกัน 25 ปี

ส่วนในระดับอาคารธุรกิจหรือโรงงาน การติดตั้ง Rooftop PV ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 30–50% ต่อปี ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญที่กระทบต่อผลกำไรโดยตรง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟมากช่วงกลางวัน เช่น ศูนย์กระจายสินค้า โรงเรียน โรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังโซลาร์รูฟ ความฉลาดที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

ระบบโซลาร์ยุคใหม่ไม่ใช่แค่แผงโซลาร์ติดบนหลังคาเท่านั้น แต่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเพื่อการจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาด อาทิ

1. Smart Inverter

อุปกรณ์แปลงไฟที่สามารถตรวจวัดการผลิตและการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนหรือคลาวด์ เพื่อวิเคราะห์การประหยัดและประสิทธิภาพ

2. Battery Storage (ESS)

ระบบกักเก็บพลังงานที่สามารถเก็บไฟฟ้าจากช่วงกลางวันไปใช้ช่วงกลางคืน หรือเมื่อไฟดับ ช่วยให้พึ่งพาการไฟฟ้าน้อยลง และเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน

3. AI Energy Management

เทคโนโลยี AI วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟของบ้านหรืออาคาร ปรับรูปแบบการผลิต-ใช้พลังงานให้เหมาะสม และเลือกช่วงขายไฟกลับเข้าระบบเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด

4. BIPV (Building Integrated Photovoltaics)

การรวมแผงโซลาร์เข้ากับวัสดุก่อสร้าง เช่น หลังคา ผนัง หรือกระจกอาคาร ทำให้อาคารทั้งหลังกลายเป็นแหล่งผลิตพลังงาน

ตัวอย่าง Smart City ที่ใช้ Solar Rooftop อย่างเข้มข้น

1. Chandigarh (อินเดีย)

เมืองนี้กลายเป็น เมืองแรกของอินเดียที่ติดตั้งโซลาร์บนหลังคาในอาคารรัฐบาลและบ้านเรือนหมดทุกราย ภายในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีโครงสร้างความร่วมมือผ่านองค์กร CREST ซึ่งติดตั้งทั้งหมด 52.852 MWp จากกว่า 6,600 แผง 

มีโครงการ “Rent-a-Roof” Resco Model ให้เอกชนลงทุนติดตั้งและจ่ายค่าเช่าหลังคาให้เทศบาลโดยไม่ต้องใช้เงินทุนของรัฐ The Times of India

นอกจากนี้ยังมีโครงการชาร์จรถ EV ใช้พลังงานจากโซลาร์ rooftop ในอาคารสาธารณะหลายแห่ง

2. Fujisawa Sustainable Smart Town (ญี่ปุ่น)

เมืองต้นแบบโดย Panasonic บนพื้นที่โรงงานเก่า เดินระบบตั้งแต่ปี 2014 ใช้โครงข่าย Smart Grid ที่เชื่อม Solar PV พร้อมระบบจัดเก็บพลังงาน (battery/fuel cells) และช่วยลดการปล่อย CO₂ ถึง 70% 

3. Sharjah Sustainable City (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

มีการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาบ้านเรือนกว่า 1,250 หลัง พร้อมระบบรีไซเคิลน้ำ และสวนเกษตรในเมือง ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้สูงถึง 50% และเป็นแบบอย่างด้านการอยู่ร่วมกับธรรมชาติในเมือง 

4. Bo01 – Malmö (สวีเดน)

ชุมชนต้นแบบ “City of Tomorrow” ที่ใช้พลังงานจากแหล่งหมุนเวียน 100% โดยมีระบบ โซลาร์บนหลังคาผสานกับเทคโนโลยีตรวจวัดการใช้ไฟสมัยใหม่ โดยพลังงานส่วนเกินจะถูกส่งกลับไปยังโครงข่ายเมือง Malmö ได้อย่างอัตโนมัติ 

5. Aarhus University (เดนมาร์ก)

มหาวิทยาลัย Aarhus ร่วมกับชุมชนสร้าง rooftop PV ขนาด 98 kW แล้วเปิดให้ทุกคนลงทุนแบบหุ้นย่อยในระบบนี้ ทำให้ทุกคนที่ร่วมลงทุนได้รับผลตอบแทนจากพลังงานที่ผลิตได้ นับเป็นการ democratize พลังงานอย่างแท้จริง

โซลาร์รูฟท็อปกับเมืองอัจฉริยะ พลังงานอนาคต เริ่มต้นจาก “หลังคา”

ภาพรวม Rooftop Solar PV ระดับโลก (ข้อมูลปี 2022–2024)

ครัวเรือนทั่วโลกมี Rooftop PV (ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคาร) รวมประมาณ 130 GW (กิกะวัตต์) ซึ่งมาจากระบบติดตั้งในบ้านพักประมาณ 25 ล้านครัวเรือนทั่วโลก หรือคิดเป็น ประมาณ 6% ของกำลังการผลิตสะสม Solar PV ทั่วโลก (~2.2 TW)

ณ สิ้นปี 2024 ความสามารถในการผลิตพลังงานจากระบบ Solar PV (Solar Photovoltaic เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง) รวมทั่วโลกอยู่ที่ 2.2 TW (เทราวัตต์) ซึ่ง Rooftop PV ถือเป็นส่วนสำคัญของ Distributed PV หรือ Distributed Photovoltaics – ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งแบบกระจายตัวในหลายพื้นที่ย่อย โดยสัดส่วนของ Distributed PV คือประมาณ 40% ของกำลังการผลิตพลังงานโซลาร์ทั้งหมด

Rooftop PV แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่คือ

– Residential Rooftop PV – ระบบที่ติดตั้งในบ้านพักอาศัย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโด

– Commercial/Industrial Rooftop PV – ระบบที่ติดตั้งในอาคารพาณิชย์ โรงงาน โกดัง หรือห้างสรรพสินค้า

และจากการประมาณการแบบจำลองของ IEA หากมีการติดตั้งต่อเนื่อง จะมี 100 ล้านครัวเรือน ที่ใช้ Rooftop PV ภายในปี 2030

หมายเหตุสำคัญ:

Utility-scale solar PV (ระบบโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่เพื่อการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์) ครองสัดส่วนมากกว่า 60% ของกำลังผลิตใหม่ แต่ Distributed PV หรือ Distributed Photovoltaics ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งแบบกระจายตัวในหลายพื้นที่ย่อย (รวม rooftop) ยังเป็นหัวใจสำคัญในหลายประเทศ โดยมีโซลาร์รูฟท็อปเป็นส่วนสำคัญของตลาด โดยเฉพาะในจีน สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เยอรมนี ญี่ปุ่น

ส่วนในประเทศไทย แม้มีศักยภาพมหาศาล แต่ติดตั้งจริงยังต่ำ ก็มีนโยบายใหม่ที่ช่วยลดอุปสรรค เช่น การยกเลิก permit, อัตรา NEM ชัดเจน, ส่งเสริมแหล่งเงินสนับสนุน  เพื่อเร่งให้ rooftop PV เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

Source : PostToday

นักวิจัยค้นพบวิธีใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ในเวลากลางคืน

นี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่อีกขั้น เมื่อนักวิจัยชาวออสเตรเลียสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ได้ในตอนที่ “ดวงอาทิตย์ไม่ส่องแสง” แล้ว กลุ่มนักวิจัยของมหาวิทยาลัย UNSW ได้ทำในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นได้โดยการจับพลังงานของดวงอาทิตย์ในเวลากลางคืนที่อาศัยการแผ่รังสีความความร้อนอินฟราเรดของโลก ทีมนักวิจัยมาจากสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าโซลาร์เซลล์และพลังงานหมุนเวียน ใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่เรียกว่าเทอร์โมเรเดียทีฟไดโอด (thermoradiative…

ปตท.สผ. เปิด“ลานแสงอรุณ”​ เริ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตปิโตรเลียม

ปตท.สผ. เปิดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “ลานแสงอรุณ” เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตปิโตรเลียมในโครงการเอส 1 นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในการผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 13,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี อีกหนึ่งความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์…