News & Update

‘ฟินแลนด์’ เดินหน้าใช้ ‘พลังงานลม’ แทนถ่านหิน มุ่งสู่ ‘พลังงานสีเขียว’

1 เมษายน 2024 บริษัทสาธารณูปโภคด้านพลังงาน Helen ได้ยุติการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินซัลมิซารี (Salmisaari) ในเฮลซิงกิอย่างเป็นทางการ ทำให้ในปัจจุบัน “ถ่านหิน” เป็นแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของฟินแลนด์ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการปล่อยมลพิษและเพิ่มความเป็นอิสระด้านพลังงานแล้ว บริษัทยังระบุว่าการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินยังช่วยลดค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคได้อีกด้วย

โอลลี่ เซิร์กก้า ซีอีโอของ Helen กล่าวว่า “เราสามารถดำเนินการได้อย่างมีกำไรมากขึ้นด้วยราคาที่ถูกกว่าสำหรับลูกค้า ความสำเร็จของเราเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ยอดเยี่ยมว่าในกรณีที่ดีที่สุด การเปลี่ยนผ่านที่สะอาด ประสิทธิภาพด้านต้นทุน และความมั่นคงด้านอุปทานของฟินแลนด์สามารถดำเนินไปควบคู่กันได้”

นับจากนี้ Helen จะผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลม พลังงานนิวเคลียร์ พลังงานน้ำ และพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 Helen ประกาศลดราคาพลังงานให้แก่ลูกค้าไปแล้วสองครั้ง คาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยรวมของระบบทำความร้อนในเขตพื้นที่สำหรับปี 2025 จะลดลงโดยเฉลี่ย 5.8% เมื่อเทียบกับปี 2024

ตั้งแต่ปี 2020 “พลังงานลม” เข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคพลังงานของฟินแลนด์ กำลังการผลิตพลังงานลมเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า จนกลายเป็น 25% ของการผลิตพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ  ขณะเดียวกันการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลดลง 73% จาก 2.44 เทระวัตต์ชั่วโมงเหลือ 0.67 เทระวัตต์ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของพลังงานทั้งหมด

โรงไฟฟ้าถ่านหิน Salmisaari

Salmisaariโรงไฟฟ้าถ่านหิน แห่งสุดท้ายในฟินแลนด์
เครดิตภาพ: REUTERS

ในปี 2024 ฟินแลนด์มีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินเปิดใช้งานอยู่ 3 แห่ง โรงหนึ่งคือโรงไฟฟ้าถ่านหินซัลมิซารี ส่วนอีก 2 โรงเป็นโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน คือ วาสกีลูโอโต 2 ( Vaskiluoto 2) ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงเพียงประมาณ 30% 

ขณะที่มาร์ตินลาคโซ 2 (Martinlaakso 2) ใช้ถ่านหินและชีวมวลร่วมกัน และมีแผนจะยกเลิกใช้ถ่านหินในปี 2026 ซึ่งทั้งโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งผลิตพลังงานรวมกันได้เพียง 0.8% ของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีโรงไฟฟ้าเมริ-โปริ (Meri-Pori) ถูกใช้เป็นโรงไฟฟ้าสำรอง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินร้ายแรงจนถึงสิ้นปี 2026

ฟินแลนด์ร่วมใจงดใช้ถ่านหิน

รัฐมนตรีกระทรวงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมของฟินแลนด์ ซารี มุลตาลา แสดงความยินดีกับ Helen และบริษัทพลังงานทั้งหมดในประเทศสำหรับความมุ่งมั่นในการยกเลิกใช้ถ่านหิน

“ในปี 2019 รัฐสภามีมติเห็นชอบกฎหมายห้ามใช้ถ่านหินเพื่อผลิตพลังงานภายใน 10 ปีอย่างเป็นเอกฉันท์ ในเวลานั้น เป้าหมายดูเหมือนจะท้าทาย แต่ตอนนี้ที่ทำได้เร็วกว่ากำหนด การผ่านกฎหมายนี้จึงดูเป็นการมองการณ์ไกลมาก” มุลตาลา กล่าว

เพื่อให้เป็นไปตามเป้า ฟินแลนด์ได้ออกนโยบายและแผนงานสนับสนุน รวมถึงการระดมทุนมูลค่า 22.8 ล้านยูโรในปี 2021 ที่มุ่งเป้าไปที่เทคโนโลยีและการลงทุนด้านพลังงานที่สร้างสรรค์ 

มุลตาลาระบุว่า พลังงานลมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเติบโตทางเศรษฐกิจของฟินแลนด์ ตามรายงานล่าสุดของสมาพันธ์อุตสาหกรรมฟินแลนด์ โดยคิดเป็นมูลค่า 26,000 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 44% ของอุตสาหกรรมสีเขียวทั้งหมดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

ก่อนหน้านี้ ฟินแลนด์ต้องพึ่งพาถ่านหินที่นำเข้าจากรัสเซียเป็นหลัก ดังนั้นการเลิกใช้ถ่านหินจึงทำให้ฟินแลนด์เป็นอิสระด้านพลังงานมากขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นคงของชาติด้วย ขณะเดียวกันก็ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของฟินแลนด์ได้ 5% 

ซิริลล์ คอร์เมียร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ของ Beyond Fossil Fuels ภาคการผลิตไฟฟ้าของยุโรปที่ใช้พลังงานหมุนเวียนกล่าวว่า ฟินแลนด์ได้แสดงให้ว่าการใช้พลังงานหมุนเวียนสามารถเกิดขึ้นได้จริง หากภาคการเมืองมีความชัดเจน และมีการลงทุนอย่างรวดเร็ว

“พลังงานลมเพียงอย่างเดียวก็ช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ถ่านหินและพลังงานฟอสซิลได้มากเพียงพอแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าพลังงานหมุนเวียนสามารถขยายขนาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนโยบายของรัฐบาลสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสม” คอร์เมียร์กล่าว

นอกจากนี้ การรณรงค์ของกลุ่มภาคประชาสังคมมีบทบาทสำคัญในการทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินซัลมิซารีปิดตัวลง หนึ่งในนั้นคือ Coal-Free Finland กลุ่มรณรงค์เรียกร้องให้ยุติการใช้พลังงานถ่านหินและเลิกใช้พลังงานถ่านหินมาโดยตลอด แต่กลุ่มผู้รณรงค์กล่าวว่าฟินแลนด์ยังสามารถทำได้มากกว่านี้ โดยชี้ให้เห็นถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โอลคิลูโต 3 (Olkiluoto 3) ที่คืบหน้าล่าช้าไปมาก และต้องใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันฟินแลนด์กำลังก้าวไปสู่ระบบพลังงานที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพและปริมาณการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้สูงสุดและรวดเร็ว” คอร์เมียร์กล่าว 

ในปี 2017 สหราชอาณาจักรและแคนาดาได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรขับเคลื่อนการยุติใช้พลังงานถ่านหิน หรือ PPCA ซึ่งฟินแลนด์เป็นสมาชิกของ PPCA มาตั้งแต่ก่อตั้ง และปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 180 ประเทศทั่วโลก

“กรณีของฟินแลนด์ยืนยันว่าการเร่งเปลี่ยนจากถ่านหินไปเป็นพลังงานสะอาด จะยิ่งสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศ ช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังพิสูจน์ด้วยว่าการเปลี่ยนผ่านจากถ่านหินเป็นพลังงานสะอาดสามารถเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่คิดได้มาก ด้วยความมุ่งมั่นที่กล้าหาญและการวางแผนเชิงรุกของรัฐบาล” จูเลีย สโครปสกา หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ PPCA กล่าว


ที่มา: Euro NewsReutersYLE
Source : กรุงเทพธุรกิจ

BMW iX พัฒนาแบตเตอรี่ Gemini ชาร์จเต็มวิ่งได้ 978 กม. ตอบโจทย์คนชอบเดินทางไกล

BMW iX รถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายยุโรป ได้พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ที่มีชื่อว่า Gemini ซึ่งให้ผลทดสอบดีเกินคาด เมื่อจับคู่กับ SUV ไฟฟ้าอย่าง BMW…

เอ็กโก กรุ๊ป ขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียน

เอ็กโก กรุ๊ป ขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียน ต่อยอดธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน ตอบโจทย์ Carbon Neutral การขับเคลื่อนสังคมโลกสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society)…

Stella Terra รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ คันแรกของโลกที่วิ่งได้ไกลถึง 1,000 กม.

Stella Terra รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์คันแรกของโลกที่วิ่งไกลได้กว่า 1,000 กิโลเมตรโดยไม่ต้องแวะชาร์จแม้แต่ครั้งเดียว มาดูกันว่ารถคันนี้จะเจ๋งแค่ไหน และมีการใช้เทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจบ้าง Stella Terra ถือเป็นรถพลังงานแสงอาทิตย์คันแรกที่วิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 1,000…