กระทรวงพลังงานจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่ ขับเคลื่อนนโยบาย จี้พลังงานจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดลดใช้พลังงานภาครัฐให้ได้ 20%
วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการประหยัดพลังงานภายใต้กรอบนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) ในวันนี้ มีเป้าหมายที่จะให้พลังงานจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านพลังงานให้สามารถดำเนินงานตามนโยบายที่ได้รับจากส่วนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยมีการใช้คู่มือการจัดทำแผนปฏิบัติราชการด้านพลังงานระดับจังหวัดเป็นกรอบในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และมีการติดตามประเมินผลเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนั้น จากวิกฤตด้านราคาพลังงานที่มีความผันผวนและยังคงอยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน รัฐบาลได้มีการกำหนดมาตรการลดใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานอย่างน้อยร้อยละ 20 ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวจะถูกนำไปเป็นตัวชี้วัดของส่วนราชการ ดังนั้น พลังงานจังหวัดจะต้องเป็นตัวอย่างและผู้นำในการขับเคลื่อนงานด้านการประหยัดพลังงานให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างรวดเร็ว
โดยจะต้องเป็นทั้งผู้ประสานและให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการในการอนุรักษ์พลังงานและประหยัดพลังงานแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ และขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการระดับจังหวัดในการจัดทำแผนประหยัดพลังงานในภาครัฐ และจะมีการตรวจสอบและวัดผลจากข้อมูล Energy Utilization Index (EUI) ผ่านระบบ e-Report
อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของพลังงานจังหวัด คือ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ด้านการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้กับประชาชนผ่านเครือข่ายภายในจังหวัด
เช่น อาสาสมัครพลังงาน (อส.พน.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนด้านพลังงานทดแทนในภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม ให้หันมาใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานทดแทนในรูปแบบอื่น ๆ ตามศักยภาพเชื้อเพลิงที่มีในพื้นที่
“การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ นอกจากจะเป็นการมอบนโยบายด้านพลังงานให้กับพลังงานจังหวัดแล้ว ยังมีการเน้นย้ำเป้าหมายการลดใช้พลังงานในภาครัฐ ร้อยละ 20 โดยมีพลังงานจังหวัดเป็นกลไกสำคัญในการประสานและส่งต่อข้อมูลด้านการประหยัดและอนุรักษ์พลังงานผ่านคณะกรรมการระดับจังหวัด
โดยจะมีกำหนดตัวชี้วัดและมีการใช้ข้อมูล Energy Utilization Index (EUI) ในการตรวจสอบและวัดผลการดำเนินงาน รวมทั้งในอนาคตอันใกล้นี้ก็จะมีการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานในทั้งภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน
รวมทั้งการให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนให้หันมาใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น ซึ่งหากทุกภาคส่วนมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ก็จะสามารถลดการนำเข้าพลังงานและก็จะถือว่าเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประเทศได้อีกทาง” นายกุลิศกล่าว
Source : ประชาชาติธุรกิจ