News & Update

กบน.สั่งลดราคาดีเซลรอบ 3 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร เริ่ม 24 มี.ค. 2566

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) สั่งลดราคาดีเซล รอบที่ 3 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร เหลือ 33.50 บาทต่อลิตร มีผล 24 มี.ค. 2566 นี้ หวังลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดติดลบต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว เตรียมเดินหน้ากู้เงินเฟส 2 อีก 2 หมื่นล้านบาท กลางเดือน เม.ย. 2566 นี้ ด้านสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) ระบุทิศทางราคาดีเซล จะทรงตัวระดับ 32-35 บาทต่อลิตร หากราคาน้ำมันดีเซลโลกยังแตะ 105 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล   

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 มีมติให้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ลงเป็นครั้งที่ 3 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลวันที่ 24 มี.ค.2566 ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หน้าสถานีบริการน้ำมัน จะอยู่ที่ 33.50 บาทต่อลิตร

ทั้งนี้ การปรับลดราคาดีเซลดังกล่าว เป็นไปตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยในตลาดโลกเดือน มี.ค.ซึ่งอยู่ที่ 102 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลงจากราคาเฉลี่ยในเดือน ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ประมาณกว่า 1 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทาง สกนช.จึงเสนอบอร์ด กบน.ให้พิจารณาปรับลดราคาดีเซล เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ประกอบกับ ทางคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติขยายระยะเวลาลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปถึง 20 ก.ค. 2566 ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีสภาพคล่องดีขึ้น

ล่าสุด สถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 12 มี.ค. 2566 ติดลบต่ำกว่าระดับ 1 แสนล้านบาทแล้ว โดยอยู่ที่ 99,662 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ อยู่ที่ 53,290 ล้านบาทและบัญชี LPG ติดลบ อยู่ที่ 46,372 ล้านบาท นับเป็นการติดลบต่ำกว่า  1 แสนล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่ 3 ก.ค. 2565

ส่วนราคาดีเซลจะปรับลดลงมาจนถึงระดับเดิมที่ 30 บาทต่อลิตรหรือไม่นั้น ส่วนตัวเห็นว่า กรอบราคาดีเซลน่าจะอยู่ที่ 32-35 บาทต่อลิตร หากราคาน้ำมันดีเซลโลกอยู่ในระดับ 105 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่หากราคาลดลงต่ำกว่านี้ก็อาจเป็นไปได้ที่จะกลับมาอยู่ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตร  โดยกรอบราคาดีเซลสูงสุด 35 บาทต่อลิตรนี้ดำเนินการมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2565 เป็นต้นมา และมีการลดราคาลงมารวม 2 ครั้ง ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร และครั้งที่ 3 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 24 มี.ค. 2566 ดังกล่าว  

สำหรับความคืบหน้าแผนการกู้เงินของกองทุนน้ำมันฯ เดิม ครม.พิจารณาอนุมัติกรอบเงินกู้ อยู่ที่วงเงิน 150,000 ล้านบาท โดยจะต้องกู้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ 6 ต.ค.2565-5 ต.ค. 2566  โดยได้แบ่งการกู้เงินออกเป็น 2 เฟส เฟสแรก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) บรรจุไว้ 30,000 ล้านบาท ได้ดำเนินการกู้เงินเสร็จสิ้นแล้วในช่วงเดือน ธ.ค.2565 และเฟสที่สอง เหลือกรอบวงเงินอยู่ 120,000 ล้านบาท แต่สถานะหนี้กองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 99,662 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ สบน.พิจารณากรอบเงินกู้นั้น ได้อนุมัติไว้ที่ 80,0000 ล้านบาท ฉะนั้นเมื่อรวมกับวงเงินกู้เดิม คาดว่าจะใช้เงินรวมทั้งหมด 110,000 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมกับยอดหนี้ที่เหลืออยู่

อย่างไรก็ตาม ครม.ได้มอบหมายให้ กบน.ดำเนินการตามแผนการกู้เงินเพื่อบริหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอ บอร์ด กบน. อนุมัติให้สถาบันการเงินยื่นข้อเสนอการกู้เงินที่วงเงิน 20,000 ล้านบาท ในช่วงกลางเดือน เม.ย.2566 เพื่อนำเงินไปชำระคืนหนี้ผู้ค้ามาตรา 7 ต่อไป แต่ทั้งนี้ การกู้เงินในเฟสที่สอง วงเงิน 80,000 ล้านบาทนั้น จะต้องดำเนินการเซ็นสัญญากับสถาบันการเงินให้เสร็จตามกรอบ 1 ปีที่ ครม.กำหนดไว้ คือ ภายในเดือน ก.ย. 2566 นี้

ทั้งนี้คาดว่าคงต้องใช้เวลาประมาณ 5 ปี กว่าสถานะกองทุนฯ จะกลับสู่ภาวะปกติ ที่มีเงินในบัญชีไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท และเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ดีเซลประมาณ 50 สตางค์ ถึง 1 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ถึง 5.05 บาทต่อลิตร

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า สถานการณ์ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ล่าสุด ยังเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่ให้ตรึงราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2566 ขณะที่ราคา LPG ตลาดโลกเฉลี่ยเดือน มี.ค. 2566 นี้ อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับกว่า 500 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน โดยกองทุนน้ำมันฯ ยังใช้เงินเข้าไปชดเชยอยู่ที่ประมาณกว่า 8.88 บาทต่อกิโลกรัม หรือ ราคาที่แท้จริงควรอยู่ที่ประมาณ 453 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม กรอบวงเงินในการชดเชยราคา LPG ที่อนุมัติไว้ที่ 48,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะเพียงพอในการตรึงราคา LPG ไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ตามมติ กบง.

Source : Energy News Center

“Green Job” งานแห่งอนาคต 1 ใน 10 อันดับ โตเร็ว 5 ปีข้างหน้า

ในวันที่ทั่วโลกหันมามองเรื่องของ Sustainability ทำให้เรื่องของความยั่งยืนไม่ใช่แค่การทำเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์องค์กรอีกต่อไป แต่ถูกฝังอยู่ในตัวองค์กร ในผลิตภัณฑ์ และบริการ ซึ่งนั่นทำให้เทรนด์งานใหม่แห่งอนาคตอย่าง Green Job ถูกพูดถึงกันมากขึ้น…

ร้อนสุดๆ ยอดใช้ไฟฟ้าพุ่งทำลายสถิติปี 2565 แตะ30,936 เมกะวัตต์

ร้อนจัด ยอดใช้ไฟฟ้าพุ่งทำลายสถิติของปี 2565 ถึง 30,936.5 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นพีคไฟฟ้ารอบ 2 ของปี 2565 ขณะพยากรณ์อากาศคาดอุณหภูมิมีโอกาสสูงแตะ 41 องศา ระหว่าง 23-29 เม.ย. นี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานชี้ยอดใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นตามสภาพอากาศ วอนประชาชนลดใช้ไฟฟ้าเท่าที่ทำได้ตลอดปี 2565  หรือจนกว่าแหล่งก๊าซฯ เอราวัณจะกลับมาผลิตเต็มศักยภาพ ระบุเตรียมหาเครื่องมือวัดผลการลดใช้ไฟฟ้าประชาชนพร้อมมาตรการกระตุ้นให้เห็นผลชัดเจน

‘พีระพันธุ์’ จ่อชง ครม. เปิดทางเอกชนซื้อ-ขายไฟสะอาดเสรี

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากกรณีที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567…

Leave a Reply