News & Update

Central Group กับ วิธีสร้างอาณาจักรธุรกิจ Net Zero ที่ครอบคลุมทุกมิติแห่งแรกของไทย ภายในปี 2050

อุณหภูมิโลกเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละราว ๆ 0.6-0.9 องศาเซลเซียสและถ้าหากลองสังเกตช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราเองเผชิญกับอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงฝุ่นละอองในอากาศที่มหาศาล จนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 

ปรากฎการณ์นี้กำลังเตือนว่าสุขภาพโลกใบนี้กำลังอ่อนแอลงจนทำให้เกิด เมกะเทรนด์ ในโลกธุรกิจนั้นคือ Net Zero Emissionที่บริษัทระดับโลกมากมายต่างมีเป้าหมายดำเนินธุรกิจ ไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

บริษัทที่จริงจังกับเรื่องนี้ครบทุกมิติ เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยก็คือ Central Group โดยมีการดำเนินการผ่าน 3 บริษัทใหญ่ในเครือ 

1. บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) : ผู้นำธุรกิจค้าปลีกในเมืองไทย หรือเรียกสั้น ๆ ว่า CRC โดยที่ผ่านมาบริษัทมีโครงการต่าง ๆ มากมาย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

อย่างที่โดดเด่นก็คือโครงการ Say No to Plastic Bags โดยเป็นค้าปลีกแห่งแรกที่งดแจกถุงพลาสติกตั้งแต่ปี 2019, การใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ขนส่งสินค้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, โครงการ Samui Zero Waste Model ที่ลดขยะอินทรีย์ 41.7 ตัน ผ่านการแปรรูปด้วยเครื่องหมักย่อยสลายทางชีวภาพเป็นปุ๋ยและก๊าซชีวภาพ

2. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) : ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และโครงการที่พักอาศัยรายใหญ่ของประเทศไทยหรือ CPN ก็จริงจังกับเรื่องนี้มานานก่อนที่จะเกิดกระแส Net Zero 

โดยมีการติดตั้ง สถานีคัดแยกขยะ ในศูนย์การค้าเป็นแห่งแรก และมีการผลักดันให้คัดแยกได้กว่า 20,000 ตัน/ ปี, ผลิตพลังงานสะอาดด้วยตนเองกว่า 28 ล้านยูนิต/ ปี, ติดตั้ง EV Charger Station มากที่สุดในกลุ่มศูนย์การค้า รวมกว่า 495 ช่องจอด และมีการรีไซเคิลน้ำได้มากกว่า 500 ล้านลิตร/ ปี

CPN ยังร่วมกับพันธมิตรมากมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตัวเอง ทั้งเทศบาล เกษตรกร และโครงการ ไม่เทรวม ของกทม. โดยเมื่อปีที่ผ่านมาลดการนำขยะอินทรีย์ไปฝังกลบ ได้ 6,000 ตัน จนถึงรวบรวมขยะรีไซเคิล พร้อมแปลงเป็น “เชื้อเพลิงขยะ” ได้ 18,182 ตัน

3.บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน) : ผู้นำธุรกิจโรงแรมและอุตสาหกรรมร้านอาหารในประเทศไทย หรือ CENTEL ก็มีการขับเคลื่อนเรื่องนโยบายทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น เช่น

สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของแขกเรื่องการจัดการขยะด้วยถังขยะรูปปลา “POP Fish” ที่ ย่อมาจาก “Plastic Only Please” เพื่อลดขยะในทะเลและรีไซเคิลขยะพลาสติก, โครงการ Food Surplus Donation ที่จัดการและส่งต่ออาหารส่วนเกินจากโรงแรมที่ยังมีสภาพดีให้กับผู้ที่ต้องการ โดยส่งต่อไปแล้วกว่า 312,782 มื้อ,Going Greener Programme รณรงค์ให้แขกมีส่วนร่วมในการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้ผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัวซ้ำระหว่างเข้าพัก โดยลดการใช้น้ำได้เฉลี่ย 8 ลิตร /ห้องพัก

ส่วนภารกิจที่ทาง Central Group จะ Move on ต่อไปข้างหน้าพร้อมกับวาง Timeline อย่างชัดเจน

– ภายในปี 2024 ติดตั้ง Solar Rooftop ให้ครบ 100% ของศูนย์การค้าในเครือ
– ภายในปี 2030 ใช้ Eco-friendly Packaging 100% ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และโรงแรม
– ภายในปี 2030 ปลูกป่า 50,000 ไร่ 
– ภายในปี 2030 ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ ให้ได้สูงสุดร้อยละ 50 ของปริมาณขยะทั้งหมด

ภารกิจทั้งหมดที่ถูกตั้งเป้าหมายไว้ และต้องทำให้สำเร็จก็เพื่อเป้าหมายเดียว คือสร้าง Central Group ให้เป็นอาณาจักร Net Zero ภายในปี 2050

Source : https://www.marketthink.co/43237

เนื้อหาน่าสนใจ :  เนสท์เล่ฯ ผนึก กฟผ. นำร่องผลิตไอศกรีมด้วยพลังงานทดแทน 100% เป็นครั้งแรกในธุรกิจ FMCG
Tags:

ฝรั่งเศสพร้อมเปย์ครัวเรือนละ 1.4 แสนบาท เดินหน้าเปลี่ยนปารีสให้เป็นเมืองขี่จักรยานได้

ฝรั่งเศสจูงใจคนให้หันมาขี่จักรยานไปทำงานเพิ่มขึ้น รัฐบาลให้เงินอุดหนุนประชาชนเพื่อจะหันมาซื้อจักรยานมาใช้ด้วยวงเงินสูงสุด 4 พันยูโรหรือประมาณ 1.4 แสนบาท รัฐบาลฝรั่งเศสหาทางจูงใจคนให้หันมาขี่จักรยานมากขึ้น ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาขี่ e-bike หรือจักรยานไฟฟ้าหรือจักรยานธรรมดาก็ย่อมได้…

EGCO อัด 3 หมื่นล้าน ต่อยอดธุรกิจ “พลังงานหมุนเวียน – ไฟฟ้าจากไฮโดรเจน”

เอ็กโก กรุ๊ป เผยแผนธุรกิจปี 2565 อัดงบ 3 หมื่นล้าน ต่อยอดความสำเร็จด้านพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกา ผ่าน “เอเพ็กซ์” พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี “การผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน” ตอบโจทย์อนาคต เจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมไทย

Leave a Reply