แต่นวัตกรจะคิดตรงกันข้าม เขาเห็นวิกฤติเป็นโอกาส ลองคิดดูว่าถ้าในบรรยากาศมีคาร์บอนจำนวนมาก หมายความว่ามีแหล่งวัตถุดิบชั้นดีใกล้ตัว ถ้าเราสามารถนำคาร์บอนกลับมาเป็นเชื้อเพลิงได้ใหม่ หาวิธีดักเก็บ และหาส่วนผสมที่ใช่ประกอบร่างเข้าไป น่าจะเป็นนํ้ามันเบนซิน หรือดีเซล ที่เราผลิตเองได้จากอากาศ และยังแก้ปัญหาโลกเดือดได้ด้วย

โจทย์ก็คือ 1. สารสังเคราะห์อะไรที่ต้องเติมเข้าไปเพื่อให้คาร์บอนทำปฏิกิริยากลับด้านประกอบร่างกลับไปเป็นนํ้ามันเชื้อเพลิงเหมือนเดิม และ 2. เราจะพัฒนาเครื่องดักจับคาร์บอนรอบ ๆ ตัวเราได้อย่างไร ปกติตอนนี้มีผู้คิดค้นเครื่องดักจับคาร์บอนกันแล้ว แต่เป็นขนาดใหญ่ มีราคาแพง และคาร์บอนที่ดักจับได้ส่วนใหญ่ก็ส่งกลับไปฝังใต้ดิน เหมือนที่เราขุดมา ไม่ได้สร้างมูลค่าอะไร

มีบริษัท Aircela เป็น สตาร์ทอัพ ที่มหานครนิวยอร์ก ได้ทดลองคิดค้น เครื่องดักจับคาร์บอนขนาดเล็ก ขนาดพอ ๆ กับตู้เย็นขนาดใหญ่เท่านั้นเอง มีราคาประหยัด ในอนาคตอาจจะเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องมี เขาทดลองติดตั้งบนดาดฟ้าของอาคารในแมนฮัตตัน เครื่องนี้นอกจากดูดคาร์บอนในบรรยากาศเข้าไปในเครื่องแล้ว ยังสังเคราะห์นํ้าและสารเคมีที่มีประจุไฟฟ้า เพื่อมาทำปฏิกิริยาย้อนกลับร่วมกับคาร์บอนที่ดักเก็บมาได้ แปรรูปเป็นนํ้ามันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่มีสูตรใกล้เคียงกับนํ้ามันที่เราใช้ในยานพาหนะทั่วไป
นี่อาจจะเป็นยูนิคอร์นตัวใหม่ จากความคิดของนวัตกรที่เห็นวิกฤติเป็นโอกาส เห็นของที่ไร้ค่าสร้างแต่ปัญหา เป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าที่มีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา เป็นวิธีคิดแบบ Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียนแบบไม่รู้จบ ถ้านวัตกรรมนี้ถูกปรับปรุงพัฒนาจนวางขายได้ในห้างสรรพสินค้า น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องมี และเราอาจจะไม่ต้องพึ่งพาปั๊มนํ้ามันอีกต่อไป คนที่ใช้รถ EV อาจจะหวนกลับมาใช้รถเครื่องสันดาปแบบโบราณ แล้วก็รักษ์โลกด้วย ก็เป็นไปได้.
Source : เดลินิวส์