นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอทย์ จำกัด (มหาชน) หรือเน็กซ์ (NEX) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิดภัณฑ์สุดสาหกรรม (สมอ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สมอ. ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการผลิตและประกอบยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เชิงพาณิชย์ของบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด หรือ AAB ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

นายคณิสสร์ กล่าวต่อว่า รู้สึกภูมิใจที่ สมอ. มาดูงานที่โรงงาน ซึ่งเรามั่นใจในมาตรฐานของโรงงานผลิตแบตเตอรี่ และโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ประกอบกับมีบุคลากรผู้ชำนาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า จึงมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐาน ปัจจุบันโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์ไฟฟ้า มีกำลังการผลิตสูงสุด 9,000 คันต่อปี ซึ่งประเมินว่า ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นบริษัทจึงได้จัดทำแผนขยายโรงงานแห่งที่ 2 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ให้สามารถรองรับการผลิตได้ประมาณ 50,000 คันต่อปี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแผนสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศน้อยที่สุด โดยตั้งเป้าว่าจะนำเข้า 20% และใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 80%

ด้านนายบรรจง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจโรงงานทั้ง 2 แห่ง พบว่ามีแนวคิดและวิสัยทัศน์ที่ดี มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต สามารถเป็นตัวอย่างให้กับอุตสาหกรรมรถอีวีในประเทศได้ ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยเป็นที่น่าจับตามอง ดังนั้นเห็นว่าการดำเนินกิจการของโรงงานทั้ง 2 แห่ง จะสามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศด้านยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเรื่องการส่งเสริมให้เกิดการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศได้

นายบรรจง กล่าวต่อว่า สมอ. จะนำข้อมูลที่ได้จากโรงงานดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดมาตรฐานในอีก 3 ด้าน ได้แก่ มาตรฐานด้านแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานด้านสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรฐานด้านระบบการควบคุมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ โดยเร็วๆ นี้ สมอ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านยานยนต์ไฟฟ้า ให้เข้ามาร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด ก่อนจะเร่งดำเนินการประกาศบังคับใช้มาตรฐานภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน และไม่เป็นอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี)

Source : เดลินิวส์

“เน็กซ์”เดินกำลังการผลิตเต็มสปีด ก่อนทยอยส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้าให้เอกชนผู้รับสัมปทานเดินรถเส้นทางกรุงเทพฯและปริมณฑล นำไปวิ่งบริการประชาชนเป็นรถร่วม ขสมก. แบบไร้มลพิษ

นายคณิสสร์ ศรีวัชรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX   เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เชิงพาณิชย์แบบครบวงจรแห่งแรกของคนไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด หรือ AAB อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ไปแล้วและวางแผนเดินหน้ากำลังในการผลิตสูงสุด 9,000 คันต่อปีนั้น ขณะนี้เน็กซ์ พอทย์ ได้เร่งกำลังการผลิตรถ EV ประเภทขนส่งสาธารณะ เพื่อเตรียมทยอยส่งมอบตามคำสั่งจองของลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ได้รับสัมปทานเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ในเส้นทางกรุงเทพฯและปริมณฑลในลักษณะร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)

โดยที่ผ่านมารถบัสอีวีของเน็กซ์ พอยท์ ได้ส่งมอบให้บริษัทที่ได้รับสัมปทานเดินรถเส้นทางกรุงเทพฯและปริมณฑลไปแล้ว 120 คัน ซึ่งนำไปวิ่งให้บริการประชาชนแล้วเป็นรถเมล์ไฟฟ้าสีน้ำเงินที่ไร้มลพิษ และในเดือน ส.ค.นี้จะมีการทยอยส่งมอบรถอย่างต่อเนื่อง โดยเน็กซ์ พอยท์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถซึ่งขณะนี้มีออเดอร์อยู่ประมาณ เกือบ 4,000 คัน ดังนั้นบริษัทจึงได้ทยอยนำชิ้นส่วนเพื่อนำมาขึ้นรูปและประกอบ ก่อนจะทยอยส่งมอบให้ลูกค้าเฉลี่ยเดือนละประมาณ 600 คัน

อย่างไรก็ตาม การที่เรามีฐานผลิตอยู่ในประเทศไทยทำให้ได้เปรียบคู่แข่งในทุกประตู ซึ่งที่ผ่านมาถ้าเป็นรถเชิงพาณิชย์จะมีการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งคันและจะต้องเสียภาษีอยู่ระหว่าง 20- 40% ขึ้นอยู่กับประเภทของยานยนต์ ดังนั้นการที่เน็กซ์ พอยท์มีโรงงานตั้งอยู่ในเขตฟรีโซนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI  จึงมีในส่วนของการใช้ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบภายในประเทศหรือว่าเรียกว่า Local Content มากกว่า 40 % ขึ้นไปทำให้ไม่มีภาษีนำเข้า ขณะเดียวกันการได้รับการส่งเสริมจาก BOI ส่งผลให้สินค้าทุกชิ้นที่ขายออกไปมีกำไร หากเทียบกับคู่ต่อสู้ที่นำรถเข้ามาทั้งคันแล้วเรามองเห็นว่าได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว

นายคณิสสร์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้เรายังมีความร่วมมือกับ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ที่เป็นพันธมิตรของเน็กซ์ จึงนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาทำงานร่วมกัน โดยจุดแข็งของเน็กซ์ พอยท์ คือมีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการทำการตลาดในส่วนของรถเชิงพาณิชย์มาเป็นระยะเวลากว่า 10  ปีขึ้นไป บุคลากรมีความเชี่ยวชาญและมีโครงข่ายในการทำบริการหลังการขายที่มีความชำนาญและสมบูรณ์แบบ ขณะที่ EA ชำนาญในส่วนของการผลิต charger และส่วนของแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันทาง EA ได้ติดตั้ง charger ไปแล้วกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ถือว่าเป็นบริษัทที่มีการติดตั้ง charger ที่เยอะที่สุดในประเทศไทย รวมถึงมีบริการหลังการขาย  ทำให้ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อรถจากเน็กซ์ พอยท์ ไม่ต้องกังวลกับบริการหลังการขาย

“ผมพูดได้เต็มปากว่า เน็กซ์ พอยท์ คือ ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ที่มีการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมรายแรกในประเทศไทย และทำการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาคงได้ยินกันตลอดว่ามีกลุ่มบริษัทชั้นนำในประเทศไทย พยายามเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจของยานยนต์ไฟฟ้า แต่เอาเข้าจริงมีการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมแค่ 2 ค่ายหลักๆคือค่าย mercedes-benz และค่าย NEXPOINT ที่มีการลงทุนสายผลิตเพื่อรองรับการผลิตรถไฟฟ้าและมีผลิตภัณฑ์ที่ประกอบภายในประเทศ และส่งมอบรถให้ลูกค้าได้จริง ซึ่งในส่วนของ benz จะโฟกัสรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล ส่วน NEX จะมุ่งเน้นรถเชิงพาณิชย์เป็นหลัก จึงนับได้ว่าเป็นรายแรกของประเทศไทยที่มีการลงทุนจริงๆ และมีการทยอยส่งมอบสินค้าจริงให้ผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” ซีอีโอเน็กซ์กล่าว

Source : มติชนออนไลน์