ปัญหาขยะจากครัวเรือนนับว่าเป็นปัญหาที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าปริมาณขยะจากครัวเรือนก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน และในบ้านเรายังไม่มีการแยกขยะอย่างชัดเจน ทำให้ขยะจากครัวเรือนนั้นจะเป็นขยะที่ยังไม่มีการคัดแยก ซึ่งสร้างปัญหาหลายๆ อย่างตามมามากมาย ดังนั้นจึงมีการคิดค้นวิธีการจัดการขยะจากครัวเรือนกันมากมายหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นก็คือ การสร้างถังหมักก๊าซชีวภาพ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนขยะเป็นก๊าซหุงต้มได้นั่นเอง
รู้จักกับถังหมักก๊าซชีวภาพ
ถังหมักก๊าซชีวภาพ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการหมักสารอินทรีย์เพื่อให้เกิดก๊าซชีวภาพ ถังหมักก๊าซชีวภาพโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นทรงกลมหรือทรงกระบอก แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ ส่วนหมักและส่วนเก็บก๊าซ ส่วนหมัก เป็นส่วนที่ใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ โดยอาศัยจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ในสภาวะไร้ออกซิเจน สารอินทรีย์ที่สามารถนำมาใช้หมักเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพได้ เช่น มูลสัตว์ เศษอาหาร น้ำเสียจากฟาร์ม น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และขยะอินทรีย์ เป็นต้น ส่วนเก็บก๊าซ เป็นส่วนที่ใช้ในการเก็บก๊าซชีวภาพที่ได้จากการหมัก โดยก๊าซชีวภาพส่วนใหญ่จะประกอบด้วยก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งเป็นก๊าซเชื้อเพลิงที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม ผลิตกระแสไฟฟ้า และใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์
ถังหมักก๊าซชีวภาพสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะของกระบวนการหมัก ได้แก่
- ถังหมักแบบต่อเนื่อง (Continuous digester) เป็นถังหมักที่สารอินทรีย์และจุลินทรีย์ที่หมักสารอินทรีย์จะไหลผ่านถังหมักอย่างต่อเนื่อง
- ถังหมักแบบไม่ต่อเนื่อง (Batch digester) เป็นถังหมักที่สารอินทรีย์และจุลินทรีย์ที่หมักสารอินทรีย์จะถูกเติมเข้าไปในถังหมักและทำการย่อยสลายจนเสร็จสิ้นในถังหมักถังเดียว
นอกจากนี้ถังหมักก๊าซชีวภาพมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงเรือน ปริมาณสารอินทรีย์ที่ใช้ในการหมัก และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ถังหมักก๊าซชีวภาพขนาดเล็กมักนิยมใช้สำหรับใช้ในครัวเรือนหรือฟาร์มขนาดเล็ก ส่วนถังหมักก๊าซชีวภาพขนาดใหญ่มักนิยมใช้สำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ตัวอย่างการนำถังหมักก๊าซชีวภาพไปใช้ เช่น
- การใช้ถังหมักก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตก๊าซหุงต้มในครัวเรือน
- การใช้ถังหมักก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตไฟฟ้าในฟาร์มปศุสัตว์
- การใช้ถังหมักก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ประโยชน์ของถังหมักก๊าซชีวภาพ
ถังหมักก๊าซชีวภาพมีประโยชน์หลายประการ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ดังนี้
ด้านสิ่งแวดล้อม
- ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่จะต้องนำไปฝังกลบหรือเผา ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ
- ช่วยบำบัดน้ำเสีย โดยก๊าซชีวภาพที่เกิดขึ้นจะช่วยลดปริมาณสารอินทรีย์ในน้ำเสีย ทำให้น้ำเสียมีคุณภาพดีขึ้น
- ช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็นจากขยะอินทรีย์
ด้านเศรษฐกิจ
- เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาดและยั่งยืน ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเชื้อเพลิงสำหรับหุงต้มหรือผลิตไฟฟ้า
- สามารถสร้างรายได้จากการผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ
ปัจจุบันประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียอินทรีย์ เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและลดมลภาวะสิ่งแวดล้อม ถังหมักก๊าซชีวภาพจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียอินทรีย์ในประเทศไทย ล่าสุดได้มีการคิดคันถังหมักก๊าซชีวภาพประสิทธิภาพสูงขึ้น มีชื่อว่า SUZDEE สุดดี
รู้จักกับ SUZDEE สุดดี ระบบถังหมักก๊าซชีวภาพ
SUZDEE สุดดี ระบบถังหมักก๊าซชีวภาพ เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดยกลุ่มวิจัยของสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล (BSE) สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ร่วมกับนักวิจัยจากหลากหลายสถาบัน ถังหมัก SUZDEE สุดดี เป็นถังหมักประสิทธิภาพสูงที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกหัวเชื้อจำเพาะสูง ภายใต้สภาวะไร้ออกซิเจน สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ปริมาณมากกว่าถังหมักแบบเดิมถึง 2 เท่า มีการนำเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า C-ROS หรือ Cash Return from ZeroWaste and Segregation of Trash เข้ามาใช้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนขยะอินทรีย์จากอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ขยะเศษอาหารจากเทศบาล ชุมชนและครัวเรือนให้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพและสารชีวภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า ผลิตปุ๋ยชีวภาพ ผลิตสารเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ถังหมักก๊าซชีวภาพ SUZDEE สุดดี ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากขยะเศษอาหารได้มากถึง 15,491 กิโลกรัมคาร์บอนอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดพลังงานสะอาดได้มากถึง 470 LPGeg และสามารถนำไปใช้ผลิตเป็นสารบำรุงพืชชีวภาพได้ 20,616 ลิตร
ปัจจุบัน ถังหมัก SUZDEE สุดดี สามารถกำจัดขยะเศษอาหารได้ประมาณ 23,580 กิโลกรัม โดยเฉลี่ยประมาณวันละ 10 กิโลกรัม ในอนาคต จะมีการพัฒนานวัตกรรมเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นพลังงานในระดับร้านอาหาร ซึ่งจะสามารถรองรับขยะจากเศษอาหารได้ประมาณ 60-70 กิโลกรัมต่อวัน
คุณสมบัติเด่นของถังหมัก SUZDEE สุดดี
- ผลิตก๊าซชีวภาพได้ปริมาณมากกว่าถังหมักแบบเดิมถึง 2 เท่า
- ใช้เวลาหมักสั้นลงเหลือเพียง 15-20 วัน
- สามารถใช้เศษอาหารและวัสดุอินทรีย์ได้หลากหลายชนิด
- ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
- ดูแลรักษาง่าย
รูปแบบการทำงานของถังหมัก SUZDEE สุดดี
- นำขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ กากกาแฟ เศษใบไม้ ฯลฯ ใส่ลงในถังหมัก
- จุลินทรีย์ที่อยู่ในถังหมักจะย่อยสลายขยะอินทรีย์เป็นก๊าซชีวภาพและน้ำเสีย
- ก๊าซชีวภาพจะถูกเก็บไว้ในถังเก็บก๊าซ
- น้ำเสียจะถูกย่อยสลายในถังย่อยสลาย
ประโยชน์ของถังหมัก SUZDEE สุดดี
- ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่ต้องนำไปฝังกลบหรือเผา ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ
- เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาดและยั่งยืน ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเชื้อเพลิงสำหรับหุงต้มหรือผลิตไฟฟ้า
- สามารถสร้างรายได้จากการผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ
รายชื่อสถานที่ติดตั้งถังหมักก๊าซชีวภาพ SUZDEE สุดดี บางส่วน
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ภาคใต้
- โรงเรียนเทศบาลบ้านบางใหญ่
- โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
- เทศบาลเมืองพัทยา
- เทศบาลเมืองเชียงราย
- เทศบาลตำบลห้วยใหญ่
- นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี
- ฟาร์มไก่ไข่ สหกรณ์การเกษตรหนองบอน จังหวัดนครปฐม
- ฟาร์มโคนม สหกรณ์โคนมหนองคาย
- ร้านอาหาร ครัวบ้านคุณยาย จังหวัดเชียงใหม่
- สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ที่ตั้งโครงการวิจัยและพัฒนาถังหมัก SUZDEE สุดดี
- ร้านอาหาร Greenery
- โรงเรียนบ้านสวน พุทธมณฑล โรงเรียนในจังหวัดนครปฐม
- ชุมชนบ้านสุขสมบูรณ์ ชุมชนในจังหวัดสระบุรี
จากข้อมูลทั้งหมดนี้จะเห็นว่าถังหมักก๊าซชีวภาพนั้น เป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์ต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ จึงควรได้รับการส่งเสริมให้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะถังหมักก๊าซชีวภาพ SUZDEE สุดดี ที่เป็นนวตกรรมใหม่ที่ช่วยทั้งการเปลี่ยนขยะให้เป็นก๊าซหุงต้ม และยังสามารถผลิตสารบำรุงพืชได้อีกด้วย ปัจจุบันมีการติดตั้งระบบถัง SUZDEE สุดดีไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว