News & Update

โครงสร้างราคาน้ำมัน และการลดภาษี

ในที่สุด รัฐก็ประกาศลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.- 20 ก.ค. ซึ่งมีวาระการพิจารณาทุกๆ 2 เดือน

หลังรับแรงกดดันจากทุกภาคส่วนเพราะน้ำมันดีเซลนั้นถือเป็นต้นทุนที่สำคัญในภาคการผลิตและค่าขนส่ง การปล่อยให้น้ำมันดีเซลลอยตัวอย่างแท้จริงตามกลไกของตลาดโลกจึงมีแนวโน้มที่จะส่งผลเสียมากกว่าได้ในมุมมองของเศรษฐศาสตร์มหภาค

โดยปกติแล้วราคาน้ำมันหน้าปั๊มที่เราเติมกันอยู่ทุกวัน นอกเหนือจากราคาน้ำมันที่แปรผันตามราคาที่กำหนดโดยอุปสงค์อุปทานในตลาดโลกแล้ว ยังประกอบไปด้วยค่าต่างๆ อีก 5 องค์ประกอบ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาน้ำมันของไทยและเพื่อนบ้านจึงไม่เท่ากัน ถึงแม้ว่าราคาต้นทุนน้ำมันอ้างอิงจากตลาดโลกจะมีราคาเท่ากันก็ตาม

องค์ประกอบอีก 5 ส่วนที่ประกอบกับต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย ได้แก่

  1. ภาษีสรรพสามิต คิดที่อัตรา 1-7 บาทต่อหน่วย
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันจัดเก็บที่ 7% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับการจัดเก็บภาษีสินค้าทั่วไป
  3. ภาษีเทศบาล คิดที่อัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิตเพื่อนำเงินไปใช้บำรุงท้องถิ่น

หากกรุ๊ปรวมองค์ประกอบ 1-3 เฉพาะด้านภาษีต่างๆ แล้วจะพบว่าคิดเป็น 30-40% ของต้นทุนเลยทีเดียวและเห็นได้ว่า ภาษีสรรพสามิตที่คิดเป็นหน่วยบาทต่อหน่วยมิใช่ % แบบภาษีแบบอื่นนั้น ถือเป็นภาษีที่ประชาชนต้องรับภาระหนักที่สุด ดังนั้นการลดภาษีในส่วนของสรรพสามิตนั้นถือว่าสมควรแล้ว

4. กองทุนต่างๆ คิดโดยประมาณเป็น 5-20% อาทิ กองทุนน้ำมันซึ่งหลักการก็เพื่อรักษาเสถียรภาพและเพื่อจัดการความผันผวนของราคาน้ำมันที่ขึ้นลงตลอด นอกจากนี้ยังมีกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสนับสนุนพลังงานทางเลือกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

ณ ราคาปัจจุบัน กองทุนน้ำมันและกองทุนอนุรักษ์พลังงานจัดเก็บอยู่ที่ 0.12-9.71 บาท แตกต่างกันไปตามประเภทของน้ำมันและข้อกำหนดยกเว้นการจัดสรรเงินเข้ากองทุน อาทิ ราคาน้ำมันเบนซิน 95 นั้นถูกจัดเก็บเข้ากองทุนนี้ถึง 7 บาทกว่า ขณะที่แก๊สโซฮอล์ E20 ถูกจัดเก็บเพียง 0.12 บาท นี่คือเหตุผลว่าทำไมน้ำมันเบนซิน 95 ถึงราคาแพงนัก

และสุดท้าย 5. ค่าการตลาดซึ่งประมาณการได้ที่ 10-18% ตามแต่ประเภทของน้ำมันและบริษัท ซึ่งถือเป็นต้นทุนค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าขนส่ง ค่าบริการและกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ณ ราคาปัจจุบันค่าการตลาดนั้นอยู่ที่ 1.20-6.40 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อยโดยเฉพาะกับแก๊สโซฮอล์ E85 ที่จัดเก็บสูงที่สุดกว่าน้ำมันประเภทอื่นๆ (ที่ 6.40 บาท)

จะเห็นได้ว่า โครงสร้างที่ซับซ้อนของราคาน้ำมันนั้น แท้จริงแล้วเป็นราคาต้นทุนน้ำมันหน้าโรงงานอยู่ที่ 40-60% เท่านั้นซึ่งก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของน้ำมัน แต่ต้นทุนอีกส่วนเกือบหรือกว่าครึ่งของราคาขายปลีกนั้นมาจากภาษีต่างๆ กองทุนต่างๆ และค่าการตลาด จึงทำให้ราคาน้ำมันในไทยนั้นแตกต่างจากนานาประเทศ

ถูกต้องแล้วที่เราจำเป็นต้องอ้างอิงราคาน้ำมันตามตลาดโลกและการผันผวนของราคาน้ำมันนั้นก็ยากที่จะควบคุมได้ แต่ปัจจัยต่างๆ อีกกว่าครึ่งนั้นแท้จริงแล้ว สามารถบริหารจัดการได้ และหลายประเทศก็กำลังบริหารจัดการอยู่เพื่อลดภาระของประชาชน

สมควรแล้วที่รัฐออกมาประกาศลดภาษีสรรสามิตเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ ถึงจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่ก็สามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนในยามยากลำบากลงได้บ้าง

Source : กรุงเทพธุรกิจ

“ต่ออายุหลอดพลาสติก” เปลี่ยนขยะเป็นสินค้าฝีมือชุมชน

อีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ช่วยโลกกับการ "ต่ออายุหลอดพลาสติก" ที่ต่อยอดจากการนำ "หลอด" ที่ใช้แล้วไปผลิตเป็น "หมอนไส้หลอด" เพื่อผู้ป่วยแผลกดทับของ "มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน" และ…

ยางล้อ “Greenergy Tyre” ยอดทะลุเป้า! กยท. สั่งเพิ่มผลิต อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

กยท. เปิดตัวยางล้อ  “Greenergy Tyre”  ประสบผลสำเร็จ ยอดสั่งทะลุ 20,000 เส้น  เตรียมขยายการผลิตเพิ่ม ครอบคลุมการใช้งานรถทุกประเภท…

เปิดตัวเว็บไซต์ Food Waste Hub เผยแพร่นวัตกรรมฝีมือคนไทย พลิกวิกฤต ‘ขยะอาหาร’ เป็น ‘ไอเดียธุรกิจพร้อมเสิรฟ์’

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.FoodWasteHub.com  โดยการสนับสนุนของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เพื่อเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมฝีมือคนไทยในการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์…

Leave a Reply