Highlight & Knowledge

ส.อ.ท.เปิดผลสำรวจหนุนไทยสู่เป้า Net Zero ท้าทายรับมือลดฟอสซิลเพิ่มพลังงานสะอาด

กางผลสำรวจบิ๊ก ส.อ.ท. 70.7% หนุนไทยก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ปี ค.ศ. 2065 รับเป็นประเด็นท้าทายการปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ลดฟอสซิลและการจัดหาพลังงานสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยภาคพลังงานและขนส่งเป็นภาคสำคัญสุด กังวลมาตรการดังกล่าวดันต้นทุนพุ่ง

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 13 ในเดือนธันวาคม 2564 ภายใต้หัวข้อ “พร้อมหรือไม่? กับเป้าหมาย Net Zero” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท.เห็นด้วยกับเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) โดยมองว่าการปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการจัดหาพลังงานสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล จะเป็นประเด็นท้าทายของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ซึ่งภาคอุตสาหกรรมจะต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้ระเบียบวิธีการที่มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศ เพื่อให้เกิดการใช้กลไกตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับรายละเอียดจากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 160 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 13 จำนวน 7 คำถาม ดังนี้

1. ภาคอุตสาหกรรมมีความเห็นอย่างไรกับเป้าหมายของประเทศ ในการเป็น Carbon Neutrality ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) และ Net Zero ภายในปี 2065 (พ.ศ. 2608)

  • อันดับที่ 1 : เห็นด้วย 70.7%
  • อันดับที่ 2 : ควรขยายเป้าหมายออกไปอีก 5-10 ปี 16.2%
  • อันดับที่ 3 : ควรปรับเป้าหมายให้เร็วขึ้น 13.1%

2. ภาคอุตสาหกรรมมีความพร้อมในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตหรือไม่ เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่ Carbon Neutrality

  • อันดับที่ 1 : อยู่ระหว่างศึกษา คิดเป็น72.5%
  • อันดับที่ 2 : มีความพร้อมดำเนินการได้ทันที 17.5%
  • อันดับที่ 3 : ยังไม่มีความพร้อม 10.0%

3. ปัจจัยใดจะช่วยส่งเสริมให้กลไกตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตและแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเป็น Carbon Neutrality

  • อันดับที่ 1 : ระเบียบวิธีการที่มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศ 73% และไม่ซับซ้อน
  • อันดับที่ 2 : มาตรการหรือสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต 72.5% เช่น มาตรการด้านการเงิน
  • อันดับที่ 3 : การพัฒนากลไกตลาดและมาตรฐานการซื้อขายคาร์บอนเครดิต 68.1% ของประเทศให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล
  • อันดับที่ 4 : ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ในระดับที่เหมาะสม 66.9%

4. ประเด็นท้าทายของไทยในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero

  • อันดับที่ 1 : การปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และการจัดหา 75.0% พลังงานสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • อันดับที่ 2 : นโยบาย กฎระเบียบ และมาตรการจูงใจที่สนับสนุน 72.5% การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG)
  • อันดับที่ 3 : เทคโนโลยี/นวัตกรรมคาร์บอนต่ำ รวมทั้งเทคโนโลยีกักเก็บ 66.9% และการนำคาร์บอนไปใช้ประโยชน์ (CCUS) ที่มีราคาเหมาะสม
  • อันดับที่ 4 : การสร้างจิตสำนึกและความตระหนักของผู้บริโภคเพื่อให้ความสำคัญ 62.5% กับผลิตภัณฑ์/บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

5. ภาคส่วนใดที่มีส่วนสำคัญที่สุดในการทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero

  • อันดับที่ 1 : ภาคพลังงานและขนส่ง 50.0%
  • อันดับที่ 2 : ภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ 29.4%
  • อันดับที่ 3 : ภาคการจัดการของเสีย 11.3%
  • อันดับที่ 4 : ภาคเกษตรกรรม 9.3%

6. ภาคอุตสาหกรรมจะต้องปรับตัวมากน้อยเพียงใดจากเป้าหมาย Net Zero

  • อันดับที่ 1 : ต้องปรับตัวเพราะเป็นโอกาสทางธุรกิจ 55.0%
  • อันดับที่ 2 : ต้องปรับตัวบ้าง 24.4%
  • อันดับที่ 3 : ต้องปรับตัวอย่างมากเพราะได้รับผลกระทบโดยตรง 20.6%

7. ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลต่อการปฏิบัติตามมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเรื่องใด

  • อันดับที่ 1 : กฎระเบียบใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ 68.8%
  • อันดับที่ 2 : ต้นทุนทางการเงินในการปรับปรุงกระบวนการผลิต 68.8% เพื่อลดการปล่อย GHG และราคาพลังงานทดแทนอาจสูงขึ้น
  • อันดับที่ 3 : มาตรการและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ 59.4% เช่น CBAM, การติดฉลากคาร์บอน
  • อันดับที่ 4 : มาตรฐานการคำนวณและรับรองคาร์บอนเครดิตที่มีความแตกต่างกัน 51.2%
เนื้อหาน่าสนใจ :  รู้จักกับ โรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด (Hydro-floating Solar Hybrid)

โซลาร์เซลล์ออร์แกนิกทำจากเยื่อไม้ ต้นทุนต่ำ น้ำหนักเบา

ความนิยมในการใช้โซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานไฟฟ้านั้นมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก โดยเฉพาะในยุคที่คนเริ่มหันมาใช้รถไฟฟ้า หลายๆ ท่านก็ทำการติดตั้งโซลาร์เซลล์ไว้ที่บ้าน สำหรับชาร์จรถไฟฟ้าไว้อีกด้วย ซึ่งในอนาคตเราคงจะได้เห็นโซลาร์เซลล์แบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ราคาถูกลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับบทความในวันนี้…

สินเชื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ มีธนาคารไหนบ้าง เงื่อนไขเป็นอย่างไรไปชม

จากปัญหาค่าไฟแพงที่ผ่านมา ทำให้หลายคนต้องปรับตัวเรื่องการใช้ไฟฟ้ากันอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้จะใช้ไฟเท่าเดิมก็ตาม ซึ่งหลายๆ คน ก็เลือกแก้ไขปัญหานี้ด้วยการลดการใช้ไฟบ้าง หรือเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าๆ ที่กินไฟมาก เป็นเครื่องไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กินไฟน้อยลง…